เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 ที่อาคารซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก นายกิติศักดิ์ อร่ามเรือง ประธานกรรมการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทฯ พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงานร่วมพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และจัดทำบุญในโอกาสวันครบรอบก่อตั้งบริษัทฯ 24 กันยายน 2562 ก้าวเข้าสู่ปีที่ 65 ในการนี้ประธานกรรมการบริษัทฯ ได้เปิดเผยถึงแนวทางในการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการเมืองในด้านต่างๆให้เกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
นายกิติศักดิ์ เปิดเผยว่า ในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 65 บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อพัฒนากรุงเทพมหานครในทุกมิติ ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายใต้หลักธรรมาภิบาลและมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยขณะนี้มีโครงการสำคัญที่จะเปิดให้บริการคือ การเปิดเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นการเปิดให้บริการเดินรถต่อเนื่องจากสถานีห้าแยกลาดพร้าวเพิ่มอีก 4 สถานีประกอบด้วย
สถานีพหลโยธิน 24 สถานีรัชโยธิน สถานีเสนานิคม และสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยจากการทดสอบระบบและการเตรียมความพร้อมต่างๆ มีความคืบหน้าไปตามลำดับ และกำหนดเปิดเดินรถครบตลอดเส้นทางถึงสถานีคูคตปลายปี 2563 ส่วนโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทอง ระยะที่ 1 (สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี สำนักงานเขตคลองสาน) จำนวน 3 สถานี ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร คาดว่าจะพร้อมให้บริการได้ประมาณปลายปี 2563 เช่นกัน
นอกจากนี้ในส่วนของภารกิจด้านการให้บริการเดินเรือในคลอง ปัจจุบันบริษัทฯมีการให้บริการเดินเรือทั้งหมด 5 เส้นทาง คือ 1.คลองภาษีเจริญ (วัดปากน้ำฯ ท่าเรือเพชรเกษม 69) 2. คลองบางหลวง (ท่าเรือบางหว้า วัดกำแพงบางจาก) 3. คลองบางกอกใหญ่ แม่น้ำเจ้าพระยา (ท่าเรือบางหว้า-ท่าเรือท่าช้าง) 4.คลองผดุงกรุงเกษม (ท่าเรือเทวราชฯ-ท่าเรือหัวลำโพง) และ5.คลองแสนแสบ (ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง-ท่าเรือพาซิโอ) โดยในเส้นทางคลองแสนแสบยังคงให้บริการต่อเนื่องรองรับปริมาณผู้โดยสารที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากสถิติที่เริ่มเปิดดำเนินการในเดือนก.พ.62 มีผู้โดยสาร 8,616 คน เพิ่มเป็น 17,299 คนในเดือน ส.ค.62 ส่วนโครงการจักรยานสาธารณะกรุงเทพมหานคร ให้บริการยืมรถจักรยานบริเวณย่านเศรษฐกิจ 50 สถานี ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิก 10,214 คน เพื่อสนับสนุนการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ
นายกิติศักดิ์ กล่าวต่อด้วยว่า สำหรับโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ปัจุบันบริษัทฯมีภารกิจในการเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อครอบคลุมสถานพยาบาลในเขตกรุงเทพฯ 100% จำนวน 5,286 แห่ง จัดเก็บมูลฝอยติดเชื้อ 42 ตันต่อวัน ในปี 2563 จะเปิดใช้เตากำจัดขยะติดเชื้อที่ติดตั้งใหม่ 2 เตา จะเพิ่มความสามารถกำจัดขยะติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นเป็น 70 ตันต่อวันรองรับสถานบริการสาธารณสุขที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และโครงการล่าสุดที่เตรียมเปิดดำเนินการในปีหน้า คือ โครงการบริหารจัดการมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตพลังงานด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพ ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ขนาด 800 ตันต่อวันระยะเวลาสัญญา 20 ปี ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ
ซึ่งโครงการดังกล่าวจะมีการคัดแยกขยะ และนำขยะอินทรีย์มาหมัก ได้ผลผลิตเป็นก๊าซชีวภาพที่นำไปใช้ในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้า โครงการนี้เป็นการแบ่งเบาภารกิจในการกำจัดขยะของกรุงเทพมหานคร ที่ปัจจุบันมีขยะกว่า 10,000 ตัน/วัน โดยใช้รูปแบบการกำจัดขยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และถือเป็นโครงการกำจัดขยะผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นแห่งที่ 2 ของกรุงเทพมหานคร หลังจากที่ปัจจุบันมีเพียงแห่งเดียวที่เปิดดำเนินการอยู่
สำหรับโครงการนำท่อร้อยสายสื่อสารลงใต้ดินหลังจากที่บริษัทฯได้มีหนังสือแจ้ง ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม จำนวน 61 ราย เพื่อขอทราบความต้องการใช้ท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดินในลักษณะของ "ไมโครดัก" ซึ่งจะทราบความต้องการตามกำหนดเวลาให้ตอบกลับมาในวันที่ 9 ต.ค.นี้ หลังจากนั้นจะจัดทำข้อเสนออ้างอิงการใช้ท่อร้อยสายสื่อสารเสนอต่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)เพื่อเดินหน้าโครงการต่อไป ตามแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร สู่มหานครไร้สายสื่อสารในปี 2564
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ดำเนินโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยให้บริการรถตู้โดยสาร "ฟรี" สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ปัจจุบันมีรถให้บริการ 30 คัน และมีจำนวนผู้ใช้บริการจนถึงปี2562 รวม 52,714 คนทั้งนี้บริษัทฯจะเดินหน้าขับเคลื่อนทุกภารกิจในการบริหารจัดการเมืองในด้านต่างๆเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งความสะดวกสบาย เมืองแห่งความสุขของทุกคน" นายกิติศักดิ์ กล่าว.