นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงามสัมมนาพรรคเพื่อไทย ถึงกรณีรัฐมนตรีจากบางพรรคการเมือง ไม่เข้าร่วมประชุมในการพิจารณาพระรชกกำหนดมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา จะกระทบต่อการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลในสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ว่า หากฟังทั้งหมดอย่าจับประเด็นเพียงใครที่ไม่มาประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นเรื่องเล่า และเรื่องในอดีต วิธีการทำงานของนายทักษิณ จึงไม่ได้เป็นการเจาะจงพรรคใดพรรคหนึ่ง เหมือนรถไฟลำเดียวกัน ต้องไปด้วยกัน ซึ่งถือเป็นประสบการณ์การทำงานของนายทักษิณ มากกว่าการระบุเฉพาะเจาะจงไปที่รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง
ส่วนที่ระยะหลังความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้สอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างการพิจารณารายงานนิรโทษกรรม จนมีนักวิชาการวิเคราะห์อาจถึงขั้นตอนมีการยุบสภานั้น นายวิสุทธิ์ ระบุว่า นักวิชาการ ไม่ได้ใกล้ชิด สส. และอาจติดตามจากข่าวบางช่วงบางตอน แต่ตนยังเชื่อมั่นว่า รัฐบาลยังเข้มแข็ง และผูกพันธ์ทำงานร่วมกันได้อย่างดี ไม่มีปัญหาจึงขออย่ากังวล และในปี 2568 นั้นยิ่งสบาย เพราะมีเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท รวมถึงข้าว และยางราคาดี ประชาชนมีความสุข และเงินหมื่นสำหรับประชาชน อายุ 60 ปีขึ้นไป ก็กำลังจะได้รับการพิจารณา จึงขออย่ากังวลใจ แม้จะมีผู้ที่มากวนใจบางอย่าง อยากจะลงถนน ตนจึงขอให้อย่าลง เพราะร้อน และให้มายื่นเรื่องที่สภาผู้แทนราษฎร ใช้สภาเป็นที่แก้ปัญหา สามารถขอให้ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายทั่วไป หรือเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ได้ และจะได้ไม่หลงผิดเหมือนประเด็นกลุ่มว้าแดง รวมถึงเรื่อง MOU44
ขณะที่ นางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีดังกล่าวว่า มีรัฐมนตรีว่าการหลายคนติดภารกิจ และป่วย แต่ก็ยังคงมีรัฐมนตรีช่วยว่าการของแต่ละกระทรวงร่วมประชุมอยู่ จึงเป็นภาพรวมทั่วไป ไม่ได้เจาะจงพรรคใดพรรคหนึ่ง พร้อมยืนยันว่า การทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล ยังเป็นไปด้วยดี และร่วมมือกันในการดำเนินนโยบาย เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี
นางมนพร ยอมรับว่า ในความเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หรือพรรคเดียวกันเอง ก็มีความเห็นต่างเกิดขึ้น เพราะความเป็นประชาธิปไตย แต่ความเห้นต่างก็ไม่ได้ถูกละเลย และนำมาพูดคุยกันในวิปรัฐบาล จึงถือเป็นความสวยงานในระบอบประชาธิปไตยฯ