ก๋วยเตี๋ยวกาละมัง ชามละ 25 ช่วยอิ่มช่วงเศรษฐกิจตก

จากสภาวะทางเศรษฐกิจโดยรวมประเทศไทยยังไม่กระเตื้อง โดยมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสูง ประชาชนผู้บริโภคต้องรัดเข็มขัด ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น รวมถึงด้านอาหารนิยมรับประทานอาหารจานเดียวที่สะดวก รวดเร็วและประหยัด ที่สำคัญต้องอิ่มท้อง ก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารที่ชาวไทยชื่นชอบนิยมกันมายาวนาน แต่ราคาในปัจจุบันสูงขึ้น เป็นปัญหาต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค เนื่องจากราคาวัตถุดิบมีราคาสูง เช่นกัน
นางบุญเรือง ศรีทุมสุข เลขที่ 241 ซ.เลยพิท ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย กล่าวว่า เดิมครอบครัวขายก๋วยเตี๋ยวที่โรงเรียนเลยพิทยาคม สถานศึกษาขนาดใหญ่ประจำจังหวัดเลย 2 ปีที่แล้วย้ายมาเปิดหน้าบ้านทำก๋วยเตี๋ยวกะละมังขาย ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักเรียน ครู ข้าราชการ เอกชน พนักงาน ประชาชนทั่วไป เพราะเป็นย่านการค้า ชุมชน สถานศึกษา และธุรกิจอื่นๆ

ส่วนการตั้งชื่อ"ก๋วยเตี๋ยวกะละมัง" นั้น มาจาก เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เห็นใจผู้ปกครอง นักเรียนให้ได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ราคาประหยัด ลดค่าใช้จ่าย ต้องยอมรับว่าเด็กแต่ละมีฐานะทางครอบครัวที่ไม่เหมือนกัน จำนวนไม่น้อยที่ได้เงินจากผู้ปกครองวันละ 20-30 บาท แต่อาหารจานละ 40-50 บาทไปแล้ว ก๋วยเตี๋ยวกะละมังจึงเกิดขึ้นสู้กับเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่ใช้ต้นทุนการครองชีพค่าใช้จ่ายสูง สินค้ามีราคาสูง แต่รายได้เท่าเดิม ก๋วยเตี๋ยวกะละมัง คือ การใช้ภาชนะคือ "กะละมัง" ที่มีขนาดใบใหญ่ แต่ขายในราคาถูก 25-30บาท/กะละมัง เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูรวมอย่างเดียว เปิดบริการทุกวัน ถามว่าวัตถุดิบราคาสูงเช่นนี้จะคุ้มทุนหรือ ไม่นั้น แม้ว่ากำไรจะไม่มาก ก็อยู่ได้ ขอเอาใจและเห็นใจลูกค้า ถึงราคาสินค่าจะสูงกว่านี้อีกก็จะขายในราคานี้ตลอดไป
จาการถามลูกค้าที่มากินก๋วยเตี๋ยวหมูกะละมัง แห่งนี้ ส่วนใหญ่กล่าวเหมือนกันกันว่า ได้ปริมาณหมูเยอะ ทั้งเนื้อ เครื่องรวมทั้งผักสมุนไพร ผักชนิดต่างๆ ที่สำคัญรสชาติที่อร่อย ถูกปากถูกใจ ประหยัดและอิ่มท้อง ราคาก็ไม่แพง 25 บาท พิเศษ 30 บาทเท่านั้น อยากให้เปิดขายแบบนี้ตลอดไป