เมื่อวันที่ 10-13 สิงหาคม ที่ผ่านมา และคาดว่าคนร้ายน่าจะนำไปใช้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทาง ศปจร.ศชต.จึงขึ้นบัญชีรถแจ้งเตือน รถเฝ้าระวังพิเศษ เพื่อป้องกันการนำรถดังกล่าวเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเดียวกันเมื่อมีการข่าวแจ้งว่าจะมีการก่อวินาศกรรมในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จึงได้แจ้งเตือนให้สังเกตุรถคันนี้ในพื้นที่ด้วย
นอกจากนี้ยังมีรถยนต์กระบะอีก1คัน เป็นรถยี่ห้อมิซซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ ทะเบียน บต. 3597 ยะลา ซึ่งหายเมื่อวันที่ 14-18 มีนาคม และแจ้งหายเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา โดยพฤติการณ์คือเป็นรถที่ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่ นายฮาเล็ง ปะแตบือแน ได้ออกจากบ้านญาติ ม.2 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.ยะลา ต่อมาวันที่ 18 มีนาคม ได้พบศพนายฮาเล็ง ลอยอยู่ที่แม่น้ำปัตตานี และรถกระบะคันดังกล่าวได้หายไป
รายงานข่าวระบุอีกว่า ทั้งนี้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 ตุลาคม ภายหลังทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เรียกประชุมความมั่นคงรับมือเหตุวินาศกรรมดังกล่าว ทาง พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 ได้เชิญผู้ประกอบการภาคธุรกิจย่านสยาม ประกอบด้วย สยามพารากอน มาบุญครอง และสยามสแควร์ฯ ประชุมเตรียมรับมือและเฝ้าระวัง สังเกตพฤติกรรมรวมทั้งรถต้องสงสัยอาจจะก่อเหตุคาร์บอมบ์ดังกล่าว ขณะเดียวกันได้ส่งภาพรถยนต์ต้องสงสัยทั้ง 2 คันให้ช่วยสังเกต นอกจากนี้ฝ่ายความมั่นคงยังได้กระจายรูปรถต้องสงสัยทั้ง 2 คนนี้ไปทั่วพื้นที่ กรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษจากการข่าวที่อาจจะมีการก่อวินาศกรรมคาร์บอมบ์ภายในวันที่ 25-30 ตุลาคมนี้
ทั้งนี้เวลา 06.15 น. ทาง พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 จะระดมกำลังตำรวจในพื้นที่ออกตรวจจุดเป้าหมายเฝ้าระวังเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ย่าน มหาวิทยาลัยรามคำแหง และอาจจะเน้นกลุ่มคนภาคใต้ที่เข้ามาพักอาศัยในพื้นที่