นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) กล่าวถึงกรณีชาวบ้านยื่นฟ้องศาลปกครองให้เพิกถอนโครงการท่าเทียบเรือคลองรั้ว และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดกระบี่ว่าขณะนี้ทั้งสองโครงการยังอยู่ในกระบวน การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อทำรายงานอีไอเอ และอีเอชไอเอ จึงยังไม่ถึงขั้นตอนของ สผ. อย่างไรก็ตาม
ขณะนี้การประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมครอบคลุมจังหวัดกระบี่ พังงา ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ได้หมดอายุตั้งแต่ปี 2555
ดังนั้น สผ.จึงนำเสนอต่ออายุการประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม สำหรับพื้นที่กระบี่ครอบคลุม 4 อำเภอ คือเกาะลันตา อ่าวลึก เหนือคลองและคลองท่อม เสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบแล้ว และเตรียมเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
นายเกษมสันต์ กล่าวว่า การต่ออายุเขตพื้นที่ค้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ พังงา เนื่องจากบริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีความสำคัญมากทางด้านระบบนิเวศและต้องอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอกดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ เพื่อบรรจุเป็นวาระเร่งด่วนเสนอต่อบอร์ดสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้พบว่าช่วง 2 ปีหลังจากเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมหมดอายุลง ทำให้เกิดโครงการก่อสร้างต่างๆเกิดขึ้นมากมายเพราะไม่มีกฎหมายไปคุ้มครอง โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัย แต่สำหรับกรณีโครงการท่าเทียบเรือ และโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการทำอีไอเอ และอีเอชไอเอนั้น เข้าข่ายตามประกาศประเภทโครงการกิจกรรมที่ต้องทำรายงานสิ่งแวดล้อม