ภายหลังการประชุม นายนิโรธแถลงว่า กมธ.สอบถามตำรวจหลายประเด็น โดยกรณีไม่สามารถเอาผิดข้อหาเมาแล้วขับนายวรยุทธได้รับคำชี้แจงว่าเนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่สามารถตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์หลังเกิดเหตุได้ทันทีเพราะผู้ต้องหาขับรถหลบหนีเข้าบ้าน ตำรวจทำได้เพียงล้อมบ้านไว้กว่าจะได้หมายศาลไปตรวจค้นบ้าน นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจแอลกอฮอล์ ก็เป็นเวลา 16.00น. ทิ้งเวลาจากตอนเกิดเหตุถึง 10 ชั่วโมงซึ่งตามกฎหมายระบุว่า การจะนำคดีตรวจสอบแอลกอฮอล์สู่ศาลได้ต้องตรวจวัดทันทีหลังเกิดเหตุ ทำให้ไม่สามารถเอาผิดกรณีนี้ได้
1. กองพิสูจน์หลักฐาน ใช้หลักฟิสิกส์ ดูหลักการปะทะจะมีความเร็วความแรงแค่ไหน ผลเบื้องต้นพบ น่าจะมีความเร็วเกิน 80กม./ชม.
2. อาจารย์มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือใช้หลักวิศวกรคำนวณจากกล้องวงจรปิด พบความเร็วอยู่ที่ 80กม./ชม.
3. อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้หลักวิศวกรคำนวณจากกล้องวงจรปิดเช่นกัน พบความเร็ว 177กม./ชม.
เมื่อข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญความเร็วต่างกันอัยการจึงเชิญกองพิสูจน์หลักฐานและอาจารย์จุฬาฯ มาให้ข้อมูลอีกครั้ง ทั้ง2หน่วยงานยอมรับว่า น่าจะคำนวณความเร็วผิดพลาด เพราะไม่ได้หักลบค่าเลนส์ที่กล้อง อัยการจึงเห็นว่าควรหาประจักษ์พยานเพิ่มเติม เป็นเหตุให้มีพยานเพิ่มอีก 2 ปากคือ
1.นายจารุชาติ มาดทองเป็นพยานที่อยู่ในสำนวนแต่แรกอแล้ว และยืนยันว่าผู้ต้องหาขับรถไม่น่าจะเร็ว
2.พล.อ.ท.จักรกฤช ถนอมกุลบุตรเป็นพยานที่อัยการให้ตำรวจไปสอบเพิ่มเติม เพราะก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาขอให้ตำรวจสอบพยานรายนี้แต่ตำรวจบอกว่า ทำสำนวนเสร็จแล้ว ถ้าจะให้สอบเพิ่มให้ไปร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการ เพื่อให้มีคำสั่งสอบพยานเพิ่มเติมในที่สุดอัยการสั่งให้สอบพยานรายนี้เพิ่มเติม จนนำไปสู่ประเด็นข่าวอย่างที่ออกมา
อย่างไรก็ตาม กมธ.มองว่า คดีนี้ ไม่น่าจะถูกต้อง ไม่น่าจะชอบธรรมจึงฝากข้อสังเกตไปยังตำรวจให้ตรวจสอบรายละเอียดที่ขาดตกบกพร่องอยู่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เพจหมอฟัน ชี้ยาชาไม่สามารถแสดงผลเป็นโคเคนได้!
นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย โฆษกกมธ.ตำรวจกล่าวว่าเรื่องสารเสพติดโคเคนที่พบในตัวผู้ต้องหานั้นพนักงานสอบสวนให้ข้อมูลว่า ได้รับการยืนยันจากหมอฟันว่าสารที่ตรวจพบในร่างกายนายวรยุทธ เป็นยาที่ให้ผู้ต้องหาในการรักษาฟันที่มีส่วนผสมของสารโคเคนอยู่ทำให้ไม่สั่งฟ้องเรื่องสารเสพติดส่วนการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ต้องหา หลังจากเกิดเหตุไปแล้ว 10 ชั่วโมงก็ยังพบปริมาณแอลกอฮอล์ 60 มิลลิกรัม แต่ผู้ต้องหายืนยัน เป็นการดื่มหลังเกิดเหตุ เพราะเครียดไม่ได้ดื่มสุราระหว่างขับรถ แต่กมธ.ยังติดใจว่า ช่วงเวลาที่ห่างกัน 10 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาไปกินอาหารหรืออะไรบางอย่างเพื่อให้ปริมาณแอลกอฮอล์ลดลงหรือไม่
ส่วนการรื้อฟื้นคดีใหม่นั้นกมธ.ทราบว่า ตำรวจที่เสียชีวิตมีภรรยาแต่หย่า ไม่มีบุตร มีเพียงญาติพี่น้อง 5 คนตอนแรกมีการตกลงจะให้ค่าเยียวยา 6ล้านบาท แต่มีการต่อรองเหลือ 3 ล้านบาทต้องไปดูว่า มีการถูกขู่บังคับไม่ให้ติดใจเอาความหรือไม่ กมธ.จะไปพบญาติเพื่อสอบถามว่า ยังติดใจในคดีหรือไม่ พร้อมทั้งจะบอกถึงช่องทางการรื้อฟื้นคดีได้ถ้ามีหลักฐานใหม่