โซเชียลข้องใจ ครอบครัวชมพู่ ซื้อรถใหม่ป้ายแดง ถามหาความจริง

จากกรณีเรื่องการรับบริจาคเงินของ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา หรือแม่ชมพู่ ผู้เป็นแม่เด็กหญิงวัย 3 ขวบที่เสียชีวิต บริเวณหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งแม่ชมพู่เองก็ได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า " สำหรับเงินที่ตนได้รับช่วยเหลือนั้น อยู่ที่ประมาณ 130,000 บาท ซึ่งตนไม่ได้เปิดรับบริจาค แต่มีผู้ใจบุญจะช่วยเหลือในช่วงที่น้องชมพู่เสียชีวิต ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ใช้จ่ายไปส่วนหนึ่ง และไม่มีใครโอนมาช่วยเหลืออีก เงินที่มีคนช่วยเหลือนั้น ตนก็ไม่ได้ถอนออกมาใช้ทั้งหมด เพียงแต่โอนเงินจ่ายค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ส่วนคนที่บอกว่าตนได้รับเงินบริจาคถึง 30 ล้านบาท ตนก็ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ยอดเงินล่าสุด 111,887.4 บาท "

ซึ่งพอเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นก็ทำเอาชาวโซเชียลแห่เข้ามาแสดงความคิดเห็นถามหาความจริง และ ต่างก็ตั้งข้อสงสัยถึงเงินบริจาคของน้องชมพู่ ที่ล่าสุดได้มีมากถึงขนาดส่งน้องสะดิ้งพี่สาวของชมพู่เข้าเรียนโรงเรียนเอกชน โดยชาวโซเชียลรายนี้ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
" อำมหิต จากครอบครัวสาวิตรี ชีวิตน้องชมพู่ แลกด้วยเงินจริงๆ
1 ซื้อโทรศัพท์ใหม่
2 สะดิ้งย้ายดรงเรียนเข้าเอกชนเทอมละเท่าไหร่
3 ซื้อรถใหม่ MG สีแดง
4 ซื้อพ่อแม่พันธ์หนูราคาแพงใหม่
5 ได้เงินต่อเติมบ้านซื้อของเข้าบ้านใหม่ แม่เข้าใจนักข่าวไม่ได้ข้อมูล

จากที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ดังกล่าวได้โพสต์ถึงประเด็นนั้น ก็มีชาวทวิตอีกหลายคนเข้ามาตอบกลับมากมาย
" ขอให้บุญที่น้องได้ทำในชาตินี้ ชดใช้หนี้กรรมกับพวกเขาให้หมด ส่วนบุญที่เหลือจากการชุบเลี้ยงส่งเสียคนในครอบครัวที่ได้มาจากการตายของน้อง ขอให้ส่งผลให้น้องเกิดในครอบครัวที่ดี มีกินมีใช้ไม่อด กรรมใดใครก่อกรรมนั้นขอให้คืนสนองโดยเร็ว #น้องชมพู่ , รถเอ็มจีจากรูปที่มอบกุญแจไม่ใช่ของนางนะคะ ไม่ได้เข้าข้าง สวต. แต่อยากให้กรองข่าวหน่อย เพราะทวิตไปก็มีคนเห็นคนเชื่อเยอะ , MG สีแดงของนักข่าวป่ะคะ หรือไงเห็นจอดตั้งแต่ข่าวแรกๆ แล้ว , รถน้าแต แต่เหมือนออกรถก่อนน้องหายตัวไปนะคะ ไม่ได้ออกรถหลังหายตัว , ย้าย รร. ไปเอกชนแล้วหรอคะ พอดีไม่ได้ตามข่าว , ใช่ค่ะจากชุดนักเรียนคอซอง เป็นแขนยาวไทด์ที่คอค่ะ แบบฟอร์มเอกชนค่ะ , ถ้าซื้อขนาดนี้ แสนสามก็เอาไม่อยู่แล้วค่ะ , ลบโพสต์จะดีมากค่ะ เพราะไม่ใช่ข้อมูลจริงทั้งหมด ทำให้เกิดการเข้าใจผิด ทั้งเรื่องรถและเรื่องโรงเรียน

ขณะที่ความคืบหน้าของคดี คือกรณีพบเสื้อส้ม ซุกซ่อนอยู่ในป่า ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่หรือไม่ เพราะมีพยานเคยเห็นว่า มีชายสวมเสื้อส้มอยู่กับน้องชมพู่ก่อนเสียชีวิตและนายจ่อย เข้าให้ปากคำได้ยอมรับว่าเป็นเจ้าของเสื้อ แต่ไม่ได้เป็นคนร้าย ซึ่งนายจ่อย พร้อมด้วยภรรยาและพี่สาว เดินทางพบตำรวจ เพื่อยืนยันว่า เสื้อตัวนี้เป็นของตัวเอง แต่ไม่เกี่ยวคดีน้องชมพู่