6 มิถุนายน 2566 กลายเป็นกระแสฟีเวอร์อย่างมาก หลังนักร้องสาวสุดสวย “ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า BlackPink” สวมชุดผ้าไทย เดินสายทำบุญที่วัดใน จ.พระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้เหล่า "สาวก Blink" และประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจตามรอย นักร้องสาวชื่อดัง ด้วยการไปเที่ยวที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจำนวนมาก กระแสดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลดีเฉพาะที่แหล่งท่องเที่ยว จ.พระนครศรีอยุธยา เท่านั้น ยังส่งผลให้ร้านจำหน่ายชุดผ้าไหม ผ้าฝ้าย และผลิตภัณฑ์ชุมชนหลายพื้นที่ ขายดีตามไปด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โดยที่ จ.นครราชสีมา นางวันเพ็ญ แสงกันหา ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน แม่บ้านเกษตรกรคึมมะอุสวนหม่อน ต.หนองหว้า อ.บัวลาย เปิดเผยว่า ผ้าถุงที่ “ลิซ่า” สวมนั้น คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า เป็นผ้าไหมมัดหมี่ แต่ความจริงเป็น ผ้าฝ้ายย้อมสีคราม หรือสีกรมท่า แต่ถือเป็นประเภทเดียวกัน ต่างกันเพียงเป็นฝ้าฝ้ายกับผ้าไหม อยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล
โดยผ้าไหมมัดหมี่ ถือเป็นผลิตภัณฑ์เด่น ที่ความสวยงาม และเสน่ห์ที่ตรึงตรา มาจากลายที่เกิดขึ้น จากการมัดที่ต้องใช้ความพิถีพิถัน ลูกค้าก็ตอบรับสั่งซื้อ และโทรศัพท์มาสอบถาม เพื่อสั่งจอง ส่งผลให้ยอดจำหน่ายดีขึ้นมาก
ทั้งนี้ การรวมตัวของกลุ่มแม่บ้าน มีมาตั้งแต่ปี 2542 จากภูมิปัญญาของชาวบ้าน ที่ถักทอผ้าไหมไว้ใช้ในครัวเรือน โดยอาศัยเวลาว่าง หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร ได้ผลิตผ้าไหมของตัว ได้แก่ผ้ามัดหมี่ ผ้าโสร่งนำไปขายสร้างรายได้หา และหาตลาดมารับซื้อแทน
นำมาสู่การส่งเสริมความรู้ จากหน่วยงานราชการ จนสามารถผลิตผ้าไหมที่มีคุณภาพ หลากหลายสไตล์ตามความต้องการของตลาด ทั้งแนวเดิมโบราณ แนวโมเดิร์นอินเทรน และฉีกแนวนำตัวโน๊ตเพลง มาประกอบการทอทำให้ลวดลายบนผืนผ้าออกมาสวยงาม แปลก น่าสนใจ สะดุดตาต่อผู้ที่นิยมใช้ จนได้รับรางวัล
หลังจากที่ผ้าไหมของหมู่บ้าน เป็นที่ยอมรับและรู้จักกันทั่วไป โดยควบคุมการบริหารจัดการ อย่างเป็นระบบ กำหนดการทอผ้าไหมพื้นเรียบ ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าฝ้าย และสินค้าอีกหลายชนิด พร้อมสร้างคำขวัญประจำกลุ่มว่า “คึมมะอุอยู่มานาน ถูกกล่าวขานเรื่องผ้าไหม ชื่อก้องกังวานไกลทั่วทั้งไทยและต่างแดน"
- บุรีรัมย์กระแส "ลิซ่า" ใส่ผ้าไทย ส่งผลร้านขายผ้าไหม-ผ้าฝ้าย กระเตื้อง
ส่วนที่บุรีรัมย์บ้านเกิดของ "ลิซ่า" หลังกระแส “ลิซ่า” ใส่ผ้าไทยไหว้พระมาแรง ส่งผลให้ร้านขายผ้าไหม-ผ้าฝ้าย ที่บุรีรัมย์กระเตื้อง เริ่มมีออเดอร์สั่งตัด เริ่มมีลูกค้าทั้งข้าราชการ ประชาชน นักศึกษา แวะเวียนมา สอบถามเลือกซื้อ และนำรูปถ่ายที่ "ลิซ่า" ใส่ชุดไทยมาให้ดู เพื่อสั่งตัดสวมใส่ตามรอยอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากที่ร้านจำหน่าย จะมีเครือข่ายกลุ่มผู้ผลิตผ้าไหม ผ้าไหมที่ขึ้นชื่อจากอำเภอต่าง ๆ สามารถผลิตลวดลาย และสีตามที่ลูกค้าสั่งได้
นางโบว์ บูลเดอโรล เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนคนของพระราชา ซึ่งเป็นศูนย์จำหน่าย ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์ชุมชน ของแต่ละอำเภอ รวมถึงผลงานของนักศึกษา มาวางจำหน่าย ก็บอกว่า หลังจากมีกระแส “ลิซ่า" สวมใส่ผ้าไทยไปไหว้พระ
ก็เริ่มมีประชาชน แวะเวียนมาสอบถาม เลือกซื้อผ้าไหม ผ้าฝ้ายที่ร้าน รวมถึงนำรูปถ่ายที่ ลิซ่า สวมใส่ผ้าไทย มาให้ทางร้านดู เพื่อสั่งตัดชุดไทยไปสวมใส่ตามรอยลิซ่า บางคนบอกว่า ถ้าไม่มีเหมือนที่น้องใส่ ก็ขอแค่สี หรือลวดลายคล้ายคลึงกันก็ได้
ซึ่งที่ร้านก็มีทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย หลากหลายลวดลายให้เลือก แต่หากลูกค้าท่านใด อยากจะได้สี หรือลวดลายอื่น ที่ทางร้านอาจจะไม่มีวางขายอยู่ ทางร้านก็จะประสานกับกลุ่มผู้ผลิตในแต่ละอำเภอ และประสานช่างตัดเย็บ ให้ตามที่ลูกค้าสั่งได้
ตอนนี้ก็เริ่มมีออเดอร์เข้ามาแล้ว ก็คาดว่ากระแสดังกล่าว จะส่งผลให้ยอดขายกระเตื้องขึ้น จากปกติยอดขายก็อยู่เฉลี่ยเดือน 2 – 3 หมื่นบาท หลังจากมีกระแสก็คาดว่า จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก หากลูกค้าท่านใดสนใจผ้าไหม ผ้าฝ้าย ก็สามารถแวะมาชม เลือกซื้อหาได้ โดยร้านจะวันจันทร์ – วันศุกร์เวลา 08.30 -16.30 น. ทั้งสามารถเข้าไปชมและสั่งซื้อได้ที่ เพจศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ได้ ก็ขอบคุณ "น้องลิซ่า" ที่ทำให้ผ้าไทย กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง