7 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวพาไปดูกระบวนการ การผลิต "บะหมี่ผักปลัง" บะหมี่ผักอินทรีย์ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ N-Do Fulltime ตั้งอยู่ ม.9 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ Local BCG Plus ของกระทรวงพาณิชย์ เตรียมขยายฐานการผลิตรองรับตลาดคนรักสุขภาพ
นางสาวอุษณีย์กรณ์ จุ้ยแหวว อายุ 42 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.9 บ้านแหลมโพธิ์ ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก และประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ N-Do Fulltime เล่าว่า แนวคิดในการทำบะหมี่จากผักปลัง เกิดขึ้นจากการที่มองเห็นว่าคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำการเกษตร ทำไร่ ทำนา
และตนเองเป็นผู้นำหมู่บ้าน แล้วก็เป็นเจ้าของร้านขายเคมี เห็นชาวบ้านขาดทุนจากการทำนา เพราะเขามีต้นทุนที่สูง ปกติเขาจะมาซื้อปุ๋ยซื้อยาที่ร้าน ถึงหน้าเก็บเกี่ยวจะมาจ่ายเงิน แต่เขาไม่มีเงินคืน เพราะประสบปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติ เคยถามชาวบ้านว่าทำแล้วไม่ได้กำไร จะทำทำไม เขาก็บอกว่าก็ไม่รู้จะทำอะไร และช่วงที่มีการตรวจสุขภาพประจำปีของหมู่บ้าน พบว่าลูกบ้านมีสารเคมีตกค้างในตัวสูง ตนจึงคิดว่าจะทำอย่างไรดี ให้ลูกบ้านมีสุขภาพดีขึ้น เลยลองชวนลูกบ้านมาปลูกผักอินทรีย์ ทำปุ๋ยหมักเอง แต่ยังไม่มีใครสนใจ
จึงลองเริ่มจากการปลูกเอง และเลิกขายปุ๋ย เราอยากทำให้เขาดู ชักจูงให้เขาเห็น แล้วก็รวมกลุ่มกันปลูกผักอินทรีย์ ช่วงแรกเจอปัญหาเรื่องหนอน เป็นโรคบ้าง ก็คิดว่าเราท้อไม่ได้ จากนั้นไปศึกษาหาความรู้ จนทำได้ และมาสอนชาวบ้าน ต่อมาตั้งกลุ่มไลน์ขายผัก ลูกค้าก็จะดึงคนรู้จักเข้ากลุ่มเรื่อยๆ จนวันหนึ่งเราขายผักได้แล้ว ก็อยากเพิ่มมูลค่าของผัก
นางสาวอุษณีย์กรณ์ กล่าวต่ออีกว่า โชคดีที่ในตำบลบ้านกร่างของเรา มีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ก็เดินไปขอความช่วยเหลือ ให้เขาช่วยคิดค้นสูตรและทำวิจัยให้ จนปรึกษากันในที่สุดเลือกผักปลัง เพราะว่าเป็นผักพื้นถิ่น เมื่อก่อนขึ้นตามรั้ว แต่ไม่มีใครสนใจ และใกล้จะสูญหาย ก็เลยนำผักปลังมาแปรรูป
โดยผักปลังมีประโยชน์มาก มีสารประกอบฟีนอลิก แคโรทีนอยด์ กรดไขมัน สารเมือก กรดอะมิโน สามารถขับปัสสาวะ ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน จึงนำมาเป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อพัฒนาเป็นบะหมี่ผักปลังอบแห้ง
โดยจุดเด่นของสินค้า เป็นบะหมี่ผักที่เน้นเรื่องสุขภาพ ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งสี ไม่ใส่ไข่ โดยจะมีเส้นเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม ไม่เหม็นเขียว ปัจจุบันผลิตได้ 500 ชิ้นต่อวัน ใช้ผักปลังประมาณ 10 กิโลกรัมต่อวัน และตอนนี้ให้สมาชิก 10 กว่าคนปลูกผักปลังเพิ่ม โดยไปสอนการดูแล เพราะตอนแรกไม่รู้ว่าทำไมผักปลังถึงให้สีไม่เหมือนกัน และมารู้ว่าต้องดูแลตั้งแต่แรกเลยว่า ผักปลังแบบนี้จะให้สีแบบนี้ต้องรดน้ำขนาดไหนถึงจะให้สีที่สวย ปลูกเสร็จเก็บผลผลิต เกษตรกรก็นำมาส่งให้เรา เป็นการกระจายรายได้ให้คนในชุมชน
สำหรับกระบวนการผลิตบะหมี่ผักปลัง เราต้องคัดใบผักปลังปลอดสาคเคมีที่ปลูกไว้ โดยเลือกใบที่ไม่อ่อนและไม่แก่เกินไปเพื่อความสวยงามของสีบะหมี่ จากนั้นนำมาปั่นให้ละเอียด ผสมกับแป้งบะหมี่ นวดให้น้ำผักกับแป้งเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปผ่านเครื่องนวดเป็นแผ่นก่อนจะนำมาตัดเป็นเส้น นำไปต้ม และนำมาพักให้เย็น
จากนั้น นำไปอบแห้งไล่ความชื้น จนเป็นเส้นบะหมี่ผักปลัง นำไปแพ็คใส่ซองกันความชื้น 1 แพ๊ค จะมี 4 ซอง รวมน้ำหนัก 140 กรัม ราคาแพ็คละ 70 บาท เวลาจะทานก็นำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 5-8 นาที จากนั้นนำไปปรุงอาหารได้ตามใจชอบ ส่วนใหญ่นิยมนำไปทำ บะหมี่ผักผัดขี้เมา บะหมี่ผักผัดโป๊ยเซียน ราดหน้าบะหมี่ผัก บะหมี่ผักผัดพริกแห้งเบค่อน บะหมี่ผักคาโบนาร่า สปาเก็ตตี้บะหมี่ผัก หรือเมนูอื่นๆ ดัดแปลงได้ตามใจชอบ
ส่วนด้านการตลาด ได้เริ่มจากขายกลุ่มเล็กๆ ให้คนรู้จักก่อน และขยายมาขายในเพจ ส่วนแผนในอนาคต อยากเพิ่มผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เช่น ผักอบกรอบ สาหร่าย และประเภทเครื่องดื่ม BCG โดยจะใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น ส่วนคนที่เลี้ยงสัตว์ ก็จะนำมูลสัตว์มาขายให้กลุ่มเราเพื่อนำมาทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ และอยากให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการออกบูทแสดงสินค้าเพื่อให้คนรู้จักเรามากขึ้น และช่วยอบรมเรื่องตลาดออนไลน์
สำหรับใครที่สนใจบะหมี่ผักปรังอบแห้ง VEGGIE NOODLES ไม่ผ่านการทอด ไม่ใส่สี ไม่ใส่ไข่ ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ของวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ N-Do Fulltime ก็สามารถติดต่อได้ กลุ่มตั้งอยู่ ม.9 ต.บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก