มีขนยาวหนาแน่นสีพื้นเทาอมเหลืองบริเวณสีข้างจะอมเหลืองจาง ๆ มีลายดอกเข้มทั่วตัวคล้ายเสือดาว(P.pardus) ช่วยให้ดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่อาศัยซึ่งเป็นภูเขาหินและหิมะปกคลุมลายดอกบริเวณหลังและสีข้างมีขนาดใหญ่ ส่วนบริเวณหัวและขาเป็นลายจุดขนาดเล็กบริเวณคาง อก และท้องเป็นสีขาวปลอดไม่มีลายลายบริเวณหลังและสีข้างจะจางกว่าบริเวณอื่นซึ่งต่างจากเสือลายจุดชนิดอื่นที่มักมีลายที่หลังเข้มกว่า หางด้านบนจะเป็นวงสีดำด้านล่างของหางเป็นจุดจาง ๆ เปรียบเทียบลายดอกของเสือดาวหิมะกับของเสือดาวแล้วดอกของเสือดาวหิมะจะห่างกันมากกว่าและไม่คมชัดเท่ามีกล้ามเนื้อหน้าอกและหัวไหล่ที่แข็งแรง อุ้งเท้ากว้างแข็งแรงและปกคลุมด้วยขนช่วยให้เพิ่มพื้นที่ผิวและกระจายน้ำหนักตัวลงบนหิมะได้อย่างสม่ำเสมอและช่วยปกป้องอุ้งเท้าจากความเย็นของหิมะได้ดีมีโพรงจมูกใหญ่ที่มีลักษณะพิเศษช่วยให้อากาศที่เย็นเปลี่ยนเป็นอุ่นก่อนที่จะสูดหายใจเข้าไปในปอด[3]และมีหางยาวที่ขนฟูสามารถพันรอบตัวเพื่อป้องกันความหนาวได้เหมือนผ้าพันคอ
สำหรับสัดส่วนของเจ้าเสือดาวหิมะ จะมีความยาวลำตัวและหัว90135เซนติเมตร ความยาวหาง90เซนติเมตร และความสูงถึงหัวไหล่60เซนติเมตร น้ำหนักในตัวผู้จะหนักราว4455กิโลกรัม ส่วนตัวเมียจะมีน้ำหนัก3540กิโลกรัม เสือดาวหิมะตัวเมียจะตกลูกครั้งละ2ตัว ทุก ๆ2ปี ลูกตัวผู้จะอยู่กับแม่นาน18เดือน ส่วนตัวเมียจะอยู่2ปี ก่อนจะแยกตัวออกไป
ส่วนการกระจายพันธุ์ จากการสำรวจพบว่า มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางบนภูเขาสูงที่มีหิมะปกคลุม โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคเอเชียกลาง อาทิเช่น มองโกเลีย, ภูฐาน, ทิเบต, จีน, อัฟกานิสถาน, รัสเซีย, อินเดีย, เนปาล โดยพบที่ทิเบตและจีนมากที่สุดมีชนิดย่อยทั้งหมด 2 ชนิดคือU. u. unciaพบในมองโกเลียและรัสเซีย และU. u.uncioidesพบในจีนและเทือกเขาหิมาลัยซึ่งที่อยู่ของทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่เชื่อมต่อติดกันโดยเสือดาวหิมะถือเป็นสัตว์นักล่าหรือสัตว์กินเนื้อเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่พบได้ในภูมิภาคเทือกเขาหิมาลัยซึ่งเป็นเทือกเขาสูง[6]แต่ปัจจุบันได้มีการจำแนกออกเป็น3 ชนิด คือP. u.irbisพบทางภาคเหนือของภูมิภาคอัลไต,P.u. uncioidesพบศูนย์กลางของเทือกเขาหิมาลัยหลักและที่ราบสูงทิเบตและP. u. unciaพบทางตะวันตกของเทือกเขาเทียนซาน, ปามีร์, ภูมิภาคทรานส์หิมาลัย
ออกล่าเหยื่อในเวลาพลบค่ำหรือกลางคืนโดยล่าสัตว์ทุกขนาดทั้งสัตว์ใหญ่สัตว์เล็ก รวมถึงล่าปศุสัตว์ของมนุษย์ เช่นแพะหรือแกะ เป็นอาหารได้ด้วย[6]โดยปกติแล้วจะล่าเหยื่อและอยู่ตามลำพังยกเว้นในฤดูผสมพันธุ์ ที่อาจอยู่เป็นคู่เมื่อล่าเหยื่อได้แล้วอาจจะกินไม่หมดในครั้งเดียว อาจใช้เวลานานถึง 34 วันกว่าเหยื่อจะหมดนานที่สุดคือ 1 สัปดาห์และจากคำบอกเล่าของชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ที่เทือกเขาปามีร์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยเล่าว่าเสือดาวหิมะเป็นสัตว์ฉลาด เมื่อจะล่าแพะป่าจะใช้วิธีกลิ้งหินจากข้างบนเพื่อให้เข้าใจผิดว่าเป็นลมพัด เมื่อแพะอยู่นิ่ง ๆเสือดาวหิมะจึงจะจู่โจม