หนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ด้านสาธารณสุข คือ ลดการตายก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อให้ลดลง 1 ใน 3 ผ่านทางการป้องกันและการรักษาโรค และสนับสนุนสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี ภายในปี พ.ศ. 2573 ล่าสุด นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า กรมสุขภาพจิต โดยสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ร่วมกับมูลนิธิกำแพงพักใจ (Wall of Sharing), แอปพลิเคชันอูก้า (Ooca), สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 13 กรุงเทพฯ บูรณาการความร่วมมือ โครงการกำแพงพักใจ ที่พักใจให้เยาวชน เพื่อให้บริการสุขภาพจิตออนไลน์ฟรีแอปพลิเคชันอูก้า (Ooca) พักพิงทางใจแต่ยังเป็นแหล่งกำลังใจที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เยาวชนและชุมชนในกรุงเทพฯ อย่างยั่งยืน
โดยจากข้อมูลการใช้บริการ Mental Health Check In ของประชาชนไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร กว่า 1,200 ราย ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 20 เมษายน 2567 พบว่า
ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถึงเป็นจำนวนที่สูง แต่ก็ยังทำให้เห็นว่าเยาวชนเหล่านั้นมีความตระหนักในการประเมินสัญญาณสุขภาพสุขภาพจิต เพื่อรู้เท่าทันต่อภาวะสุขภาพจิตของตน
กรมสุขภาพจิตได้เห็นความสำคัญ จึงพัฒนาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนเหล่านั้นให้ครอบคลุม โครงการกำแพงพักใจ ที่พักใจให้เยาวชน เพื่อเป็นที่พักใจให้เยาวชนในกรุงเทพฯ ให้เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตคุณภาพสูงผ่านช่องทางออนไลน์ได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ภารกิจสำคัญของโครงการคือ การเป็นที่พึ่งพิงทางใจสำหรับเยาวชนไทยอายุ 15-25 ปีในกรุงเทพฯ โดยพัฒนาช่องทางให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตฟรีจากผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจิตแพทย์ นักจิตวิทยาคลินิกนักจิตวิทยาการปรึกษา และอาสาสมัครผู้ดูแลใจให้เยาวชน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนที่ก้าวเข้ามาจะได้รับ การดูแลและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและมืออาชีพโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เวลาในการอคอยและโอกาสในการดูแลสุขภาพจิต
โครงการนี้มีเป้าหมายเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตสำหรับทุกคน ทำให้บริการสนับสนุนสุขภาพจิตเกิดขึ้นและฟรี สำหรับเยาวชน 2,500 คน ลดภาระในการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต ด้วยทางเลือกใหม่ผ่านช่องออนไลน์ เยาวชนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาล หรือเสียเวลารอคอยที่ยาวนาน โดยสามารถพูดคุยกับจิตแพทย์และนักจิตวิทยาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
เพื่อสร้างชุมชนแห่งความเข้าใจ สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับเยาวชน ให้พวกเขาสามารถเข้าถึงการดูแลใจ โดยไม่ต้องแลกกับคุณภาพชีวิตที่ต้องเสียไป และสร้างทีมผู้ดูแลใจให้เยาวชนเพื่อติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เยาวชนจะได้รับการปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ติดต่อกัน 2 ครั้ง และครั้งถัดไปด้วยทีมผู้ดูแลใจทีมผ่านการฝึกฝนเพื่อเป็นผู้ฟังที่ดีต่อไป และเพื่อสร้างนวัตกรรมผ่านการร่วมมือใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของเทคโนโลยี ชุมชน และความเชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพเพื่อสร้างแบบจำลองที่ยั่งยืนสำหรับโครงการด้านสุขภาพจิตในอนาคต
สำหรับการริเริ่มนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก สปสช. เขต 13 ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการหาคำตอบใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการเร่งด่วนด้านสุขภาพจิตของเยาวชนไทย โครงการนี้จะช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพจิต สร้างชุมชนแห่งความเข้าใจและเปิดประตูสู่การเปลี่ยนแปลง เพื่อให้กำแพงพักใจไม่เพียงแค่เป็นที่พักพิงทางใจแต่ยังเป็นแหล่งกำลังใจที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เยาวชนและชุมชนในกรุงเทพฯ อย่างยั่งยืน
มูลนิธิกำแพงพักใจ ทำหน้าที่ผลักดันและดำเนินการโครงการนี้มาหลายปี ด้วยระบบอาสาสมัครเพื่อให้บริการด้านสุขภาพจิตแก่เยาวชนผ่านระบบออนไลน์อย่างยั่งยืน แอปพลิเคชันอูก้า เป็นเครือข่ายสุขภาพจิตออนไลน์ที่มีจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเครือข่ายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จะเป็นหน่วยบริการและเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมต่อให้เยาวชนที่มีทะเบียนบ้านในกรุงเทพฯ สามารถใช้สิทธิของโครงการฯ ได้ฟรี รวมถึงการเชื่อมต่อและส่งต่อข้อมูลให้กับ สปสช.และมูลนิธิกำแพงพักใจ เพื่อประเมินและพัฒนาโครงการต่อไปในอนาคตสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ร่วมให้การสนับสนุนด้านวิชาการและเนื้อหาการฝึกอบรมทีมอาสาสมัครผู้ดูแลใจเพื่อเสริมสร้างชุมชนให้แข็งแกร่งและสามารถช่วยดูแลสุขภาพจิตของเยาวชนได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิต เชื่อมั่นว่าด้วยความมุ่งมั่นและร่วมมือกันอย่างจริงจังของทุกภาคส่วนใครที่สนใจเข้าร่วมหรือสนับสนุนโครงการนี้สามารถเยี่ยมชมและรับข้อมูลได้ที่ www.ooca.co เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม รวมถึงดาวน์โหลดแอปฯ อูก้า (Ooca) เพื่อเริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้- 31 สิงหาคม 2567