svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health & Lifestyle

เปิด 5 อันดับโรคมะเร็งร้ายที่กล้ำกรายผู้ชายวัยกลางคน

หนุ่มๆ ต้องระวัง!! ฟังสัญญาณเตือนร่างกาย จับจุด 5 โรคมะเร็งอันตรายที่ผู้ชายวัยกลางคนมีโอกาสป่วย พร้อมเช็กพฤติกรรมที่ทำเพราะอาจเป็นสาเหตุของโรคร้าย ลด-ละ-เลิกก่อนสาย

ข่าวการจากไปของ “หมอกฤตไท” นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล ที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ภายหลังที่แชร์เรื่องราวการต่อสู้กับอาการป่วย “มะเร็งปอด” ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก "สู้ดิวะ" จนมีผู้ติดตามคอยให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ชายที่ร่างกายแข็งแรง ไม่สูบบุหรี่ หันมาโฟกัสเรื่องของสุขภาพและโรคมะเร็งในผู้ชายมากขึ้น

สำหรับ “โรคมะเร็ง” เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตของประชากรไทยและทั่วโลก อีกทั้งยังมีเเนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่าผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งมากกว่าผู้หญิง เพราะมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยงและทำร้ายสุขภาพโดยไม่รู้ตัว อาทิ การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ความเครียด การกินอาหารที่ไม่ค่อยเป็นประโยชน์ การพักผ่อนน้อย ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญหรือสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้าย โดยเฉพาะโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เเละโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

เปิด 5 อันดับโรคมะเร็งร้ายที่กล้ำกรายผู้ชายวัยกลางคน

5 โรคมะเร็งร้ายที่กล้ำกรายผู้ชายวัยกลางคน

อันดับที่ 1 "โรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี"

พบมากเป็นอันดับ 1 พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงถึง 3 เท่า ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 30- 70 ปี

มะเร็งตับมีสาเหตุหลัก คือการได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบ พยาธิใบไม้ในตับ การดื่มแอลกอฮอล์ รับสารพิษอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) การรับยาบางชนิด และพันธุกรรม เป็นต้น โรคมะเร็งตับและท่อน้ำดีในระยะแรกมักไม่แสดงอาการ กว่าจะได้รับการวินิจฉัยก็มักจะเข้าสู่ระยะท้าย เป็นในระยะแพร่กระจายหรือระยะที่มีความรุนแรงของโรคแล้ว (advanced stage) และไม่สามารถรับการรักษาได้ทัน ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตมากที่สุด 

อาการมะเร็งตับและท่อน้ำดีระยะท้าย ได้แก่ ปวดท้องโดยเฉพาะบริเวณข้างขวาส่วนบน บางรายอาจมีอาการปวดร้าวไปที่หลังหรือไหล่ ท้องบวมขึ้น น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆ ที่รับประทานตามปกติ เบื่ออาหาร ไม่รู้สึกอยากอาหาร อ่อนเพลีย มีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ

อาการเตือนมะเร็งตับและท่อน้ำดี

  • อ่อนเพลีย
  • ปวดหรือเสียดชายโครงด้านขวา
  • ตาเหลือง ตัวเหลือง ท้องโต
  • ขาทั้ง 2 ข้างบวมโต

มะเร็งตับ เกิดได้จากสาเหตุใดบ้าง?

  • เชื้อไวรัสตับอักเสบบี และซี - ผู้ที่เป็นพาหะของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับมากกว่าคนปกติ
  • ตับแข็ง - ส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งตับมักจะมีอาการตับแข็งร่วมด้วย
  • สารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxins) - สารนี้ก่อให้เกิดเชื้อรา อยู่ในอาหารประเภทถั่วลิสงแห้ง พริกแห้ง เต้าหู้ยี้ ฯลฯ หากร่างกายได้รับมากเกินไปอาจจะเกิดการตกค้างได้
  • สารไนโตรซามีน พบได้ในสารกันบูด อาหารที่ใส่ดินประสิว หรือพบผักที่มีสารตกค้าง ซึ่งหากร่างกายได้รับมากเกินไปก็เป็นอันตรายได้เช่นกัน
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือบริโภคในปริมาณที่เยอะจนเกินไป
  • ผู้ที่เป็นเบาหวาน โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง และไขมันพอกตับ มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะนำไปสู่โรคมะเร็งตับ

 

อันดับที่ 2 "โรคมะเร็งปอด"

เป็นโรคมะเร็งที่เกิดจากเซลล์เนื้อเยื่อบุผิวมีการเจริญเติบโตผิดปกติอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ เเละเกิดเป็นก้อนเนื้อร้ายในที่สุด ซึ่งจะลุกลามเเละกระจายไปยังส่วนต่างๆ ภายในร่างกาย เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในผู้ชายไทย สาเหตุหลักของมะเร็งปอดมาจากการสูบบุหรี่ หรือรับควันบุหรี่ และผลกรวิจัยหลายชิ้นต่างออกมายืนยันแล้วว่าฝุ่นละออง PM2.5 คือหนึ่งในสาเหตุของโรคนี้ด้วย

อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดในระยะแรกๆ มักจะไม่ค่อยแสดงอาการที่ชัดเจน มักมีอาการไอเสมหะหรือไอมีเลือด เจ็บหน้าอก หายใจดังและถี่ ความอยากอาหารลดลง เป็นต้น ทั้งนี้อาการของมะเร็งปอดขึ้นอยู่กับความรุนแรงและการกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง รวมไปถึงตำแหน่งของก้อนมะเร็งด้วย อาการมะเร็งปอด แบ่งตามความรุนแรงของโรค ดังนี้

  • ไอมีเสมหะ ปนเลือด
  • เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก
  • หายใจหอบ เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
  • เสียงแหบ
  • น้ำหนักลด เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
  • ปวดร้าวที่ไหล่ ต้นแขน และสะบักหลัง
  • ปอดบวม ปอดอักเสบบ่อย

มะเร็งปอด เกิดได้จากสาเหตุใดบ้าง?

  • การสูบบุหรี่ โดยผู้ที่สูบบุหรี่จะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดมากกว่าคนที่ไม่สูบเฉลี่ยแล้ว 16 เท่า เนื่องจากสารในบุหรี่สามารถทำลายเซลล์ปอดทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ ซึ่งความเสี่ยงนี้จะยิ่งสูงขึ้นไปอีกหากผู้ที่สูบบุหรี่สูบในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานาน ขณะเดียวกันผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจําก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคนปกติด้วยเช่นกัน
  • พันธุกรรม
  • การสัมผัสสารก่อมะเร็ง ได้รับสารพิษและมลภาวะจากการทำงานสิ่งแวดล้อม งานอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น สารแอสเบสตอส หรือแร่ใยหิน ซึ่งใช้ในวงการอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และฉนวนกันความร้อน รังสีเรดอนที่ปนเปื้อนในดินน้ำและสิ่งแวดล้อม สารหนู นิกเกิล โครเมียม และ สารโลหะอื่นๆ
  • อายุ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
  • การใช้ยาเสพติดบางประเภท เช่น กัญชาและโคเคน หรือภาวะขาดวิตามินเอ

 

อันดับที่ 3 "โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก"

มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เกิดได้กับทุกวัยโดยเฉพาะคนทำงาน บ่อยครั้งที่อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่อาจไปคล้ายกับโรคอื่นๆ หรืออาจไม่ได้แสดงอาการมากนัก ทำให้ไม่ได้ระวังตัว จนเป็นเหตุให้จากเนื้องอกธรรมดาๆ กลายเป็นเนื้อร้ายที่ยากต่อการรักษา

มะเร็งลำไส้ เป็นโรคที่พบมากในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเกิดจากการใช้ชีวิตที่มีพฤติกรรมเสี่ยงในเเต่ละวัน เช่น การทานเนื้อสัตว์ติดมัน การไม่ทานผักผลไม้ ขาดการออกกำลังกาย เป็นโรคอ้วน  

อาการเตือนมะเร็งลำไส้

  • ท้องผูกบ่อยจนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ
  • ถ่ายออกเป็นเลือด หรือมูกเลือด
  • น้ำหนักลดลงผิดปกติ โดยที่ไม่ได้ลดปริมาณอาหารในเเต่ละมื้อ
  • อ่อนเพลียแบบไม่ทราบสาเหตุ

มะเร็งลำไส้ เกิดได้จากสาเหตุใดบ้าง?

สาเหตุปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่พบว่าอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่

  • สิ่งแวดล้อม
  • อาหาร หากบริโภคอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูงจนเป็นโรคอ้วน จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้มากกว่าคนปกติถึง 1.2 เท่า
  • พันธุกรรม หากบุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มากกว่า 2 คนขึ้นไปก็มีโอกาสเสี่ยงด้วยเช่นกัน

 

อันดับที่ 4 "โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก"

เป็นมะเร็งที่พบได้มากในเพศชาย โดยเฉพาะผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เกิดจากเซลล์ต่อมลูกหมากเจริญเติบโตผิดปกติและรวดเร็วจนกลายเป็นก้อนมะเร็งอุดตันทางเดินปัสสาวะในที่สุด และเซลล์มะเร็งเหล่านี้สามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ เช่น กระดูก ปอด ตับ ทำให้อวัยวะเหล่านั้นเสียหาย และอาจทำให้เสียชีวิตได้ อาการผิดปกติที่เป็นสัญญาณของโรคต่อมลูกหมาก ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ "การปัสสาวะ"

ซึ่งสามารถสังเกตอาการผิดปกติจากการปัสสาวะได้ ดังนี้

  • ปัสสาวะนาน ปัสสาวะขัด ลำของปัสสาวะอ่อนแรง หรือปัสสาวะเป็นหยดๆ
  • ปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
  • ตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อปัสสาวะบ่อยขึ้น
  • รู้สึกเจ็บปวดเวลาถ่ายปัสสาวะ
  • หากอาการรุนแรงอาจมีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ

 

อันดับที่ 5 "โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง"

เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของระบบต่อมน้ำเหลือง และความผิดปกติของเม็ดเลือดขาว โดยทั้งสองระบบเป็นเรื่องของภูมิคุ้มกันเหมือนกัน ซึ่งไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากการกลายพันธุ์ของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง การติดเชื้อบางชนิด การใช้ยากดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น มะเร็งต่อมน้ำเหลืองจะเกิดกับอวัยวะต่าง ๆ ของระบบต่อมน้ำเหลือง ได้แก่ ม้าม ไขกระดูก ต่อมทอนซิล และต่อมไทมัส

อาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

  • พบก้อนที่บริเวณต่อมน้ำเหลือง เช่น คอ รักแร้ ขาหนีบ โดยไม่มีอาการเจ็บ แต่บางครั้งการคลำเจอก้อนก็อาจไม่ใช่ก้อนมะเร็งเสมอไป อาจเป็นตัวโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่มะเร็ง
  • มีไข้ หนาวสั่น เหงื่อออกมากในกลางคืน
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลดเร็ว อ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก
  • ต่อมทอนซิลโต
  • ปวดศีรษะ
  • ซีด เลือดออกง่าย อาจสังเกตพบจุดเลือดออกตามตัวหรือจ้ำเลือด
  • ในรายที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในช่องท้องจะมีอาการแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ปวดท้อง หรือท้องโตขึ้นจากการมีน้ำในช่องท้อง

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองสามารถรักษาให้หายได้ ถ้าไม่ได้อยู่ในระยะแพร่กระจาย จึงควรสังเกตตัวเองอยู่เสมอ หากคลำเจอก้อนควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อการรักษาได้อย่างทันท่วงที

เห็นได้ว่า "โรคมะเร็ง" ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต หากเราหมั่นดูและร่างกาย ออกกำลัง กินอาหารที่มีประโยชน์ ลดละเลิกการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคร้ายตามอาจเกิดขึ้นได้ ไม่มากก็น้อย