ฟักแม้ว หรือซาโยเต้ (Chayote) จัดอยู่ในวงศ์ Cucurbitaceae หรือ Gourd Family มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของประเทศเม็กซิโก และแถบอเมริกากลาง เป็นไม้เลื้อยคล้ายตำลึง ส่วนของผลมีลักษณะยาวรี สีเขียวอ่อน ผิวขรุขระเล็กน้อย เนื้อในจะมีลักษณะคล้ายฟักและแตง เนื้อกรอบฉ่ำน้ำ มีอีกชื่อที่คนไทยมักรู้จักคือ “มะระหวาน” เป็นพืชที่นิยมปลูกมากในแถบจังหวัดภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน สำหรับฟักแม้ว ทั้งส่วนของยอดอ่อน ผลอ่อน และราก สามารถใช้ประกอบอาหารได้ โดยเฉพาะผลอ่อนและยอดอ่อนที่มีความกรอบ หวาน อร่อย เห็นบ่อยในเมนูร้านข้าวต้ม และยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทว่า นอกจากความอร่อยและเรื่องของรสชาติอันเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนแล้ว ฟักแม้วยังมีประโยชน์ดีๆ ซ่อนอยู่อีกเพียบ!
คุณค่าทางโภชนาการของผลฟักแม้ว ต่อ 100 กรัม
9 ประโยชน์ของฟักแม้วที่รู้แล้วต้องหามากิน
1.ช่วยชะลอวัย ต้านมะเร็ง
ฟักแม้วเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
2.เป็นแหล่งวิตามิน และแร่ธาตุ
ในมะระหวาน หรือฟักแม้ว อุดมไปด้วยกลุ่มวิตามินบีรวม (B-complex) และแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น โฟเลต ธาตุเหล็ก แมงกานีส ฟอสฟอรัส สังกะสี ทองแดง และโพแทสเซียมอยู่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ถือเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยา และมีส่วนช่วยในการชะลอการแข็งตัวของเส้นเลือด ชวยทำให้ผิวพรรณสวยงาม
3.ทางเลือกสำหรับคนลดน้ำหนัก
เป็นแหล่งอาหารอีกทางหนึ่งของคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะในปริมาณของฟักแม้วใน 100 กรัม จะให้พลังงานไม่ถึง 20 กิโลแคเลอรีเท่านั้น อีกทั้งยังมีเส้นใยอาหาร 1.7 กรัม ที่เป็นส่วนช่วยในการขับถ่าย และมีฟอสฟอรัสที่มีความสำคัญต่อกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย รวมถึงมีวิตามินซี โฟเลต แคลเซียม และโพแทสเซียมด้วย ที่สำคัญคือไม่มีไขมันหรือคอเลสเตอรอลอิ่มตัวอีกด้วย ฟักแม้วมีไฟเบอร์สูงจึงช่วยทำให้อิ่มท้องนานแล้วยังช่วยในการกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้อุจจาระนิ่ม ป้องกันอาการท้องผูกลลลลนักโภชนาการจึงมักแนะนำให้เป็นอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและลดน้ำหนัก
4.ป้องกันหวัด กินง่าย ราคาไม่แพง
ฟักแม้วเป็นแหล่งอาหารที่เพียงพอของสารต้านอนุมูลอิสระ ผลฟักแม้ว ต่อ 100 กรัม มีปริมาณวิตามินซี 7.7 มิลลิกรัม จึงมีส่วนช่วยป้องกันหวัด เสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย นับเป็นผักที่กินง่ายได้ประโยชน์ ส่วนผลเนื้อมีรสหวาน รสชาติคล้ายมันฝรั่งปนแตงกวา สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก นำมาตำส้มตำแทนมะละกอได้ เพราะมีเนื้อหวานกรอบ และนำไปผัดกับไข่ ต้ม จืด แกงส้ม ลวก หรือต้มจิ้มกับน้ำพริก แต่ส่วนใหญ่จะนิยมนำมาผัดกับน้ำมันหอย
5.ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
ยอดอ่อนและผลอ่อนสามารถใช้รับประทานได้ แถมยังประกอบไปด้วยวิตามินและกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด เช่น แคลเซียมที่มีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
6.บำรุงครรภ์ ดีต่อทารกในครรภ์
ซาโยเต้มีโฟเลตสูงซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างมากสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ จึงช่วยป้องกันการพิการของทารกแต่กำเนิด และพัฒนาการของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
7.ดีต่อผู้ป่วยไต
ฟักแม้วมีระดับโพแทสเซียมในระดับปานกลาง ผลฟักแม้ว ต่อ 100 กรัม มีปริมาณโพแทสเซียม 125 มิลลิกรัม จึงเหมาะเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต นอกจากนี้น้ำต้มฟักแม้ว หรือน้ำต้มมะระหวาน สามารถใช้ในการรักษาอาการเส้นเลือดแข็งตัว ช่วยลดความดันโลหิต และสลายนิ่วในไตได้
8.ช่วยบำรุงหัวใจ และหลอดเลือดให้แข็งแรง
ฟักแม้วมีส่วนช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ขับปัสสาวะ แก้อักเสบ ด้วยการใช้ผลและใบมาดองเป็นยาไว้กิน ทั้งมีงานวิจัย พบว่าสารสกัดในซาโยเต้หรือฟักแม้วนั้น ช่วยสลายไขมันในหลอดเลือด ส่งผลให้ลดความเสี่ยงของโรคไขมันอุดตันเส้นเลือด ทั้งยังช่วยบำรุงหัวใจ และหลอดเลือดให้แข็งแรง
9.ใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น
ปกติแล้วจะนิยมใช้ส่วนของผล ใบ และราก ประกอบอาหารได้เช่นกัน ทว่า ลำต้นและเมล็ดก็กินได้เช่นกัน เพียงแต่ไม่เป็นที่นิยม อีกทั้งรากฟักแม้วจะประกอบด้วยแป้ง สามารถนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
ข้อควรระวัง!
สำหรับคำแนะนำของการบริโภคฟักแม้ว ในส่วนยอดฟักแม้วจะมีฤทธิ์หนาว จึงไม่เหมาะกับคนที่ร่างกายกลัวหนาว ท้องร่วงง่าย และกระเพาะ ลำไส้ ม้าม ทำงานอ่อนแอ ระบบย่อยไม่ดี อีกทั้งมะระหวานเป็นผักกินยอด ผักทอดยอดที่ล้วนแล้วแต่เป็นข้อห้ามสำหรับผู้ที่เป็นโรคเก๊าต์ และยูริคในเลือดสูง อีกเรื่องที่ห้ามลืม คือสารเคมีที่อาจมีอยู่จากการใช้ปุ๋ยหรือยาบางชนิด ดังนั้น จึงควรล้างทำความสะอาดให้น้ำไหลผ่านเพื่อความปลอดภัย และควรกินอย่างระวัง โดยคำนึงถึงสุขภาพเป็นสำคัญ