จากกรณีประเทศจีน พบกับการระบาดของเชื้อไวรัส hMPV ที่ทำให้เกิดอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล ทั่วโลกหวาดผวาหวั่นซ้ำรอย "โควิด-19"
ล่าสุด "หมอยง" ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ศาสตราจารย์ หัวหน้าศูนย์เชียวชาญเฉพาะทางด้านไวรัส วิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Yong Poovorawan" ถึง เชื้อไวรัส hMPV ระบุว่า..
การระบาดของ ไวรัส hMPV (human meta-pneumovirus) ไม่ใช่ไวรัสใหม่ ไวรัสนี้มีมานานมากแล้ว แต่เพิ่งจะมาพบในปี ค.ศ.2000 โดยทีมนักไวรัสวิทยา ที่ Erasmus University เนเธอร์แลนด์ แยกไวรัสนี้ได้จากเด็กเล็ก 2 ราย ที่ป่วยเป็นปอดอักเสบรุนแรง และตรวจไม่พบไวรัสที่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงใช้วิธีการทางชีวโมเลกุล ตรวจชิ้นส่วน RNA โดยวิธีการสุ่ม
เมื่อเปรียบเทียบพันธุกรรม คล้ายคลึงกับ Avian pneumovirus ในนก แต่เมื่อมาทดสอบกับสัตว์ทดลอง ใช้ไก่งวงแทนนก และลิง พบว่าไก่งวงไม่เป็นโรค แต่ลิงมีน้ำมูกไหล เป็นหวัด จึงรู้ว่าไวรัสตัวนี้ไม่ได้ข้ามมาจากนก
ต่อมาได้มีการเอาน้ำเหลืองที่เก็บไว้มานานกว่า 50 ปี มาตรวจก็พบว่ามีปฏิกิริยาภูมิต้านทานต่อไวรัสตัวนี้แล้วโดยเฉพาะในผู้ใหญ่ แสดงว่าไวรัสนี้มีมานานมากกว่า 50 ปี
เมื่อแยกพันธุกรรม ทั้งตัว ก็สามารถที่จะพัฒนาวิธีการตรวจ และองค์ความรู้เพิ่มมากขึ้น
ทางศูนย์ไวรัสของเราที่จุฬา ได้ทำการตรวจมาตั้งแต่ปี 2001 และเผยแพร่ในวารสาร Scand J Infect Dis. 2003;35(10):754-6. doi: 10.1080/00365540310000094. Human metapneumovirus infection in Thai children และหลังจากนั้นก็มีการเผยแพร่ในวารสารเป็น ภาษาอังกฤษ ในนานาชาติเรื่อยมา อีก 3 รายงาน
พบไวรัสนี้ในผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ในเด็ก ประมาณร้อยละ 4 และต่อมาก็ได้มีการตรวจอย่างต่อเนื่องมาตลอดจนถึงปัจจุบัน พบไวรัสนี้ประมาณร้อยละ 4-8 เป็นไปตามฤดูกาลกับโรคทางเดินหายใจอื่น จะพบมากในฤดูฝน และช่วงฤดูหนาวอีกเล็กน้อย
นี้ไม่แตกต่างกับไวรัสตัวอื่น ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจพบได้ ตั้งแต่ ไม่มีอาการ อาการน้อย จนถึงอาการมากลงปอดปสน พบได้ทุกอายุ แต่พบได้มากในเด็ก และก่อนหน้านี้ไม่มีวิธีการตรวจ นอกจากใช้ทางชีวโมเลกุล ปัจจุบันการตรวจง่ายมาก ใช้วิธีการเช่นเดียวกับ ATK ของโควิด จึงได้มีการพูดถึงกันมากขึ้น
การดูแลรักษาและการป้องกัน ทำได้เช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ดูแลเรื่องสุขลักษณะ ให้ร่างกายแข็งแรง ล้างมือ ใครมีอาการทางเดินหายใจ ไม่ควรไปโรงเรียน หน้ากากอนามัยให้ใส่ในผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายไปสู่คนอื่น
ที่มา :