แม้ว่าจะเป็นว่าเกือบหนึ่งเดือนแล้ว นับตั้งแต่เหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลศรีราชา ที่ผสมโรงกับปรากฎการณ์แพลก์ตอนบลูมครั้งใหญ่ จนทำให้เกิดเหตุสัตว์น้ำตายหมู่ ลอยมาติดชายหาดเป็นจำนวนมาก แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีผลตรวจสอบซากสัตว์น้ำออกมาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ทำให้ สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ออกมาร้องถามถึงผลตรวจสารปนเปื้อนในสัตว์น้ำ ก่อนที่จะมีการจัดนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวศรีราชา-เกาะศรีชัง ช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้
นี่เป็นเรื่องสืบเนื่องจาก สมาคมการท่องเที่ยวและบริการศรีราชา -เกาะสีชัง กำลังเตรียมการจัดงานสร้างความเชื่อมั่นอาหารทะเลปลอดภัยภายใต้ชื่อ Siracha Clean Food & Seafood Festival 2023 และกิจกรรมใหญ่ส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6-8 ตุลาคม นี้ที่ห้วยสุครีพ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
“หลังน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์รั่วไหลลงทะเลกระทบพื้นที่อ่าวไทยในจังหวัดชลบุรี กรมอนามัย สาธารณสุขจังหวัดชลบุรีได้ออกคำเตือนไม่ควรนำสัตว์น้ำในทะเลแถบศรีราชา เกาะสีชัง อ่าวอุดม บางพระ ไปรับประทานเพราะอาจจะได้รับอันตรายจากโลหะหนักและไฮโดรคาร์บอน และอ้างว่าได้เก็บตัวอย่างสัตว์ทะเลในกระ ชังและในตลาดไปตรวจ บัดนี้ผ่านมาครบเดือนแล้วยังไม่เห็นผลตรวจเลย ไม่มีการแสดงผลการตรวจสอบให้พี่น้องประมงและประชาชนในพื้นที่ทราบ ไม่รู้กลัวอะไร แต่จะไปร่วมงานกินปลาโชว์กับเทศบาลเกาะสีชังและอำเภอศรีราชาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว” สนธิ กล่าว
"ดร.สมนึก จงมีวศิน" โพสต์ทิ้งท้ายว่า
ก่อนกินอาหารทะลโชว์ในพื้นที่น้ำมันรั่วควรเอาผลตรวจไฮโดรปิโตรเลี่ยม โลหะหนัก สารPAH และอื่นๆ มาแสดงให้กลุ่มประมงและชุมชนรวมทั้งสาธารณชนทราบก่อน เพราะช่วงนี้ขายอาหารทะเลไม่ค่อยได้ ผู้บริโภคไม่ยอมซื้ออาหารทะเลแถบนี้ งานกินปลาโชว์หรือขายสัตว์ทะเลในราคาถูกไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง ที่ถูกต้องคือต้องเอาผลการตรวจเนื้อสัตว์ทะเลมาบอกสาธารณชน ทำงานแล้วเงียบแบบนี้ ไม่ค่อยโปร่งใส
ทีมข่าวยังได้สอบถามเพิ่มเติมไปยัง "ดร.สมนึก จงมีวศิน" นักวิชาการจากกลุ่ม EEC Watch ได้ความเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีทีมนักวิจัยทั้งหมด 4 ทีมหลักที่กำลังศึกษาผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมันดิบลงทะเลศรีราชา โดยมีรายละเอียดและความคืบหน้าดังนี้
1. การสำรวจผลกระทบน้ำมันรั่วไหลภาคประชาชน ที่มีการส่งตัวอย่างสัตว์น้ำและน้ำทะเลไปตรวจยังห้องแลปของภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 1 เดือน
2. ทีมการศึกษาผลกระทบน้ำมันรั่วไหล นำโดยบริษัทไทยออยล์ ซึ่งตัวอย่างสิ่งแวดล้อมถูกนำไปส่งตรวจ ณ ยังห้องแลป มหาวิทยาลัยบูรพา ขณะนี้ยังไม่ทราบผล
3. ทีมงานศึกษาผลกระทบทางทะเล นำโดย คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
4. ทีมงานประเมินผลกระทบน้ำมันรั่วไหลบริเวณทุ่นถ่ายน้ำมัน นำโดยบริษัทศึกษาวิจัยรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ให้กับบริษัทไทยออยล์
“เห็นได้ชัดว่า ขณะนี้ผลตรวจสอบสารเคมีตกค้างในน้ำ สัตว์ทะเล และสิ่งแวดล้อมยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี แต่ก็มีความพยายามจากบางภาคส่วนที่จะจบเรื่องให้ไว โดยการเร่งรัดกระบวนการสำรวจและเยียวยาความเสียหายแก่ผู้ได้รับผลกระทบ และรีบจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ชัดด้วยซ้ำว่าขณะนี้สภาพสิ่งแวดล้อมและอาหารทะเลมีแค่ไหน” ดร.สมนึก กล่าว