รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต ปราศรัยหาเสียงในเมืองอีรี ของรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันจันทร์ (14 ตุลาคม) และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงพื้นที่หาเสียงที่ชุมชนโอ๊กส์ ของรัฐเพนซิลเวเนียในวันเดียวกัน เพื่อหวังช่วงชิงคะแนนเสียงจากรัฐสวิงสเตท ที่ทั้งคู่มีคะแนนนิยมสูสีกัน ในขณะที่การขับเคี่ยวกำลังเข้มข้นช่วง 3 สัปดาห์สุดท้าย ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายน
แฮร์ริสมุ่งโจมตีว่าทรัมป์เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย โดยเน้นเรื่องความเห็นของทรัมป์ขณะให้สัมภาษณ์กับทางฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันอาทิตย์ ที่บอกว่า เขาไม่กังวลเรื่องการกระทำของผู้สนับสนุนในวันเลือกตั้ง แต่ห่วงเรื่องศัตรูจากภายใน และขู่ว่าจะให้กองทัพจัดการคนพวกนั้น
แฮร์ริส บอกว่า คำพูดของทรัมป์บ่งชี้ว่า เขาคิดว่า ใครก็ตามที่ไม่สนับสนุนเขา หรือ ไม่ยอมทำตามความต้องการของเขา ถือเป็นศัตรูของประเทศ และการกระทำของทรัมป์ทำให้เสรีภาพของประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยง
เธอโชว์คลิปหาเสียงบางช่วงของทรัมป์จากเวทีหาเสียงหลายแห่งช่วงเร็ว ๆ นี้เพื่อเตือนถึงอันตรายของทรัมป์ และย้ำด้วยว่า หากทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 จะเป็นความเสี่ยงอย่างมากและเป็นอันตรายต่ออเมริกา และบอกด้วยว่า ทรัมป์ไม่คงเส้นคงวา และไร้สติ
ขณะที่ทรัมป์จัดเวทีหาเสียงแบบทาวน์ฮอลล์ ที่ให้ประชาชนซักถามได้ ภายในศูนย์แสดงนิทรรศการ ที่เมืองโอ๊กส์ รัฐเพนซิลเวเนีย โดยเลือกคำถามจากผู้สนับสนุน 5 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องผู้ลักลอบเข้าเมืองและการลดค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น แต่มีการหยุดชะงัก 2 ช่วงที่ผู้สนับสนุนต้องรับการปฐมพยาบาล จึงได้มีการเปิดเพลงที่รัมป์ชื่นชอบเผื่อผ่อนคลายระหว่างการรอ และขอให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูเพื่อระบายความร้อนภายในอาคาร
แต่ก่อนเพลงจะเริ่มขึ้น ทรัมป์เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และย้ำว่า หากเขาชนะรัฐนี้ ก็อาจชนะเกมทั้งหมด
ขณะที่ผลสำรวจพบว่า แฮร์ริสมีคะแนนิยมนำทรัมป์เพียงไม่ถึง 1% ในรัฐเพนซิลเวเนีย หนึ่งในรัฐที่อาจชี้ชะตาผู้ชนะการเลือกตั้ง และผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า เป็นเรื่องยากสำหรับทรัมป์และแฮร์ริสที่จะได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง 270 เสียง เพื่อให้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี โดยไม่มี 19 เสียงจากรัฐเพนซิลเวเนีย