2 มิถุนายน 2567 อดีตประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ถูกคณะลูกขุน 12 คน วินิจฉัยว่ามีความผิด 34 กระทง ในความผิดฐานปลอมแปลงข้อมูลทางการเงิน เพื่อปกปิดค่าใช้จ่ายที่ใช้ปิดปากนักแสดงหนังผู้ใหญ่ ก่อนการเลือกตั้งปี 2559 แค่เพียงเริ่มต้น เพราะยังมีคดีอาญาข้อหาอื่นๆ อีก 54 กระทงที่รออยู่ ประกอบด้วย ข้อหาพยายามล้มผลการเลือกตั้งที่รัฐจอร์เจีย 10 กระทง ข้อหาที่ยื่นฟ้องโดยรัฐบาลกลาง 4 กระทง กรณีกดดันสมาชิกสภานิติบัญญัติ, กดดันรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์, ใช้ AI สร้างภาพปลอมผู้สนับสนุนผิวดำ เพื่อดึงคะแนนเสียง จากคนเชื้อสายแอฟริกัน
ซึ่งใช้ประโยชน์จากกระทรวงยุติธรรมและเหตุจลาจลในอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม ปี 2564 หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2563 และอีก 40 กระทง ที่ถูกฟ้องในรัฐฟลอริดา กรณีจัดเก็บเอกสารของทำเนียบขาวอย่างไม่ถูกต้อง และขัดขวางการเรียกคืนของรัฐบาลกลาง หลังพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ที่ทำให้สำนักงานสืบสวนสอบ สวนกลาง (FBI) ต้องเข้าไปตรวจค้นที่คฤหาสน์ในมาร์-อา-ลาโก ของเขา เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2565
การที่ทรัมป์วัย 77 ปี เป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ที่เผชิญข้อหาในคดีอาญา จะส่งผลร้ายแรงถ้าเขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน และมีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งการเดินทางเยือนต่างประเทศ จากการที่เกือบ 40 ประเทศ รวมทั้งแคนาดาและสหราชอาณาจักร ที่เข้มงวดในการอนุญาตให้บุคคลที่มีประวัติอาชญากรรมข้ามพรมแดน และถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ทรัมป์ก็จะได้รับการปฏิบัติตามมาตรฐานเดียวกัน แต่ไม่แน่ชัดว่าจะประเทศเหล่านี้จะยอมหรือไม่ และไม่แน่ชัด ว่า คดีเหล่านี้จะเข้าสู่การวินิจฉัยของคณะลูกขุน ก่อนการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนหรือไม่ ..ถ้าไม่ ทรัมป์ก็ยังได้ชื่อว่าเป็น "อาชญากร"