ความรักที่เริ่มผลิบานตั้งแต่ครั้งยังเป็นวัยหวาน ของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กับโซฟี เกรกัวร์ ที่นำไปสู่การแต่งงานที่ยาวนาน 18 ปี มีพยานรักด้วยกัน 3 คน ได้เดินทางไปสู่จุดสิ้นสุด เมื่อทั้งคู่ช็อกโลกด้วยการประกาศผ่านอินสตาแกรมเป็นภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส เมื่อวันพุธ (2 สิงหาคม 2566) ว่า "แยกทางกันแล้ว" ส่วนสำนักนายกรัฐมนตรีแคนาดาก็ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า จัสตินวัย 51 ปี และโซฟีวัย 48 ปี ได้บรรลุข้อตกลงกันทางกฎหมายแล้ว โดยลูกทั้ง 3 คน อยู่กับจัสติน แต่ยังคงสถานะครอบครัวที่แน่นแฟ้น มุ่งเน้นความสำคัญในการเลี้ยงลูก ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและอบอวลด้วยความรัก และยังจะไปพักผ่อนวันหยุดพร้อมหน้าครอบครัวกันในเร็ว ๆ นี้ด้วย
เส้นทางรัก
จัสตินกับโซฟีพบกันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก โซฟีเป็นเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสนิทของมิเชลน้องชายของจัสติน ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์หิมะถล่มเมื่อปี 2541 ในวัยเพียง 23 ปี โซฟีสนิทถึงขั้นใช้เวลาหลายชั่วโมงในบ้านของครอบครัวทรูโด ว่ายน้ำในสระว่ายน้ำเล่นเป็นทาร์ซานห้อยโหนเชือก โซฟีเคยแอบจูบกับจัสตินในตู้ โดยไม่รู้เลยว่าเขาจะกลายมาเป็นสามีของเธอเมื่อทั้งคู่เติบโตเป็นผู้ใหญ่
เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก้าวไปตามเส้นทางของตัวเองทั้งการศึกษาและหน้าที่การงาน ก่อนจะกลับมาพบกันอีกครั้ง เมื่อได้เป็นเจ้าภาพร่วมในงานกาลา "Mercedes-Benz Grand Prix" เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2546 แต่ตอนนั้นจัสตินยังไม่ได้สนใจที่จะคบกับโซฟี เพราะเขาไม่สนใจข้อความที่เธอส่งถึงเขาหลังงานกาลาในคืนนั้น
โซฟีได้เล่าย้อนไปในวันนั้นว่า
"เราหัวเราะ เราพูดเรื่องตลกกัน มีเคมีที่ชัดเจนระหว่างเรา และฉันก็นึกขึ้นได้ว่า โอเค นี่คือคนที่ฉันจะต้องดูแลอย่างจริงจัง"
แต่ความสัมพันธ์ของวันนั้นกลับไม่คืบหน้า เพราะเมื่อเธอส่งอีเมลไปบอกเขาว่า เธอดีใจมากแค่ไหนที่ได้มาพบกันอีกแต่เขาไม่ตอบกลับ ซึ่งจัสตินอธิบายในภายหลังว่า เขายังไม่คิดจะสร้างสัมพันธ์ในตอนนั้น เขาเป็นคนที่จะไม่เริ่มอะไรถ้าไม่เต็มใจจะทำ
แต่ก็เหมือนพรหมลิขิต เมื่อเขาไปเจอเธอเข้าโดยบังเอิญบนถนนในอีกหลายเดือนต่อมา เขาจำได้ว่าแทบจะระล่ำระลักตอนที่บอกเธอว่า
"ดูสิ ผมอยากโทรหาคุณจริง ๆ นะ ผมอยากให้เราอยู่ด้วยกัน ไปทานอาหารเย็นด้วยกัน ผมรู้สึกว่าถึงเวลาแล้ว"
เขาจริงจังด้วยการกลับไปอีเมลของเธอและรีบตอบกลับ ทำให้เธอยอมไปดินเนอร์กับเขาที่ร้านอาหารอัฟกัน และไปต่อกันที่บาร์คาราโอเกะก่อนจะไปคุยกันต่อที่อะพาร์ตเมนต์ของจัสติน
นั่นคือเดตแรก และจัสตินยอมรับว่าโซฟีทำให้เขารู้สึกว้าวุ่นใจ จนอยากจะเอาหัวโขกเสาในคืนนั้น แม้จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง เขาก็ถึงกับพูดกับเธอว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยกัน และทั้งคู่ก็ร้องไห้ออกมา จากนั้นอีก 1 ปี เขาก็ขอเธอแต่งงานในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความโรแมนติก เขาคุกเข่าข้างหนึ่งท่ามกลางแสงเทียนกับกลีบกุหลายที่โปรยปรายและดนตรีแจ๊ส
ทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงานเมื่อปี 2548 ที่เปรียบดังเทพนิยายเจ้าชาย-เจ้าหญิง แต่ที่แตกต่างก็คือจัสตินยังคงมุ่งมั่นในอาชีพการเมือง ที่ส่งผลให้ความรักต้องดำเนินควบคู่กับไปแรง "บีบคั้น" โซฟียอมรับว่าเธอต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับชีวิตที่เป็นจุดสนใจในตอนแรก และเมื่อจัสตินเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2557 ก็จำเป็นต้องย้ายเข้าไปอยู่ในเขต "พื้นที่ทางการ" เธอต้องเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากในการจัดการกับความรู้สึกให้ได้ว่า "ที่พำนักใหม่" ของพวกเขานั้นคือ "บ้าน" แต่ถึงจะอึดอัดบ้างพวกเขาก็อยู่ด้วยกันตลอด พร้อมกับเลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คน ไปด้วยกัน
เทพนิยายสิ้นมนต์ขลัง หลังผ่านไป 18 ปี
จัสตินเคยให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2557 ว่า ชีวิตคู่ของเขา "ลุ่ม ๆ ดอน ๆ" ซึ่งตอนนั้นเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ "บีบ" ให้ออกมาปฏิเสธว่า "ไม่ได้นอกใจภรรยา" ขณะที่โซฟีปฏิเสธที่จะพูดถึง "ข่าวลือ" ที่กำลังบั่นทอนชีวิตคู่ที่ดำเนินมาได้ 9 ปี
9 ปี คือชีวิตคู่ที่เดินมาได้ครึ่งทาง และมีข่าวลือสะพัดว่า "ทรูโดนอกใจโซฟี" ก่อนจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในการให้สัมภาษณ์ Canadian Broadcasting Corporation เมื่อปี 2557 จัสตินถูกถามเรื่องชีวิตคู่และ "เขาหรือภรรยาเคยนอกใจกันหรือไม่" ตอนนั้นจัสตินตอบว่า
"ชีวิตคู่ของเราไม่ได้เพียบพร้อมและมันลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่โซฟีก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เป็นคู่ชีวิตและเป็นที่รักของผม"
"เราซื่อสัตย์ต่อกัน แม้ในยามที่เจ็บ"
เมื่อพิธีกร อีแวน โซโลมอน ถามว่า คำว่า "ลุ่ม ๆ ดอน ๆ" เป็นรหัสสำหรับคำว่า "นอกใจ" หรือไม่ จัสตินก็ตอบทันทีว่า "ไม่ใช่"
เขาอธิบายว่า มันหมายถึง "ประเภทของความท้าทาย ที่การแต่งงานที่แท้จริงต้องเจอ" บางครั้งภรรยาก็ "เกลียด" งานของเขา
"ผมมีงานที่ยากและมีความกดดันสูง ทุกคนรู้ดีว่ามันท้าทายแค่ไหน ที่จะสร้างความสมดุลระหว่างความรับผิดชอบในครอบครัว กับงานที่นำพาผมไปทั่วประเทศ กับงานที่หนักมาก ๆ"
"บางครั้งเธอก็กลียดงานของผม และเกลียดตัวผมที่รักงานของผม แต่ก็มีหลายครั้งที่เธอเข้าใจว่า เรามีโอกาสและความรับผิดชอบมากแค่ไหน ในการรับใช้ประเทศที่มอบอะไรมากมายให้กับเรา"
ในการให้สัมภาษณ์กับ Globe and Mail ของแคนาดาในปีถัดมา โซฟีบอกว่า
"ไม่มีการแต่งงานใดที่ง่าย เราต้องการใกล้ชิดกันมากขึ้นในฐานะปัจเจกบุคคลตลอดชีวิตของเรา และเราต่างก็เป็นนักฝันและเราต้องการอยู่ด้วยกันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันมีความสุขที่เราต้องผ่านมันไปให้ได้"
ไม่น่าเชื่อว่าในอีก 9 ปีต่อมา เส้นทางของทั้งคู่ก็มาถึงจุดสิ้นสุด โดยไม่ได้ให้เหตุผลที่ชัดเจน เพียงแต่บอกว่าเริ่มพูดคุยกันยากมากขึ้น ตอนนี้บ้านที่เคยอบอุ่นเหลือเพียงจัสตินกับลูก ๆ ส่วนโซฟี อดีตพิธีกรโทรทัศน์ ย้ายกลับไปอยู่บ้านที่ออตตาวา
ดูเหมือนจัสตินจะเดินตามรอยปิแอร์ ทรูโด พ่อของเขา ที่แยกทางกับแม่ คือ มาร์กาเร็ต หลังครองคู่กันได้เพียง 6 ปี ก่อนประกาศแยกทางกันเมื่อปี 2520 ในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี