svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

เสื่อมโทรมสุดขีด ฟิลาเดลเฟีย 'ถิ่นกำเนิดอิสรภาพ' ของอเมริกา

สหรัฐฯ ฉลองวันชาติหรือวันประกาศอิสรภาพทุกปี ในวันที่ 4 กรกฎาคม แต่เมืองที่เป็นต้นกำเนิดของอิสรภาพอย่างฟิลาเดลเฟียกลับเสื่อมโทรมลงทุกที ถนนส่วนใหญ่กลายเป็นที่อยู่ของคนไร้บ้านและคนติดยา ที่เหมือนหลุดออกมาจากหนัง "Walking Dead"

วันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันฉลองประจำปี เพื่อรำลึกถึงการก่อตั้งประเทศของสหรัฐอเมริกา อดีตอาณานิคมของอังกฤษ โดยถือเอาเหตุการณ์ที่สภาคองเกรสส์แห่งภาคพื้นทวีปที่ 2 (Second Continental Congress) หรือ สภาแห่งฟิลาเดลเฟีย มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1776 รับรองคำประกาศอิสรภาพสหรัฐฯ จากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ

นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ 'ฟิลาเดลเฟีย' ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของอิสรภาพ กลับมีสภาพอันน่าหดหู่เต็มไปด้วยคนติดยาและไร้บ้าน มีภาพคนติดยาเอาเข็มปักแขน, ขาหรือแม้กระทั่งคออยู่ตามข้างถนนกลางวันแสก ๆ คนไร้บ้านนอนหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่บนถนน ท่ามกลางขวดเปล่าและถุงพลาสติก 

เสื่อมโทรมสุดขีด ฟิลาเดลเฟีย \'ถิ่นกำเนิดอิสรภาพ\' ของอเมริกา

ย่านเคนซิงตัน ก็รู้จักกันในชื่อ "ground zero" ที่หมายถึงพื้นที่วิกฤตยาเสพติดของเมือง ที่มีคนติดยาอยู่ดาษดื่นไม่ต่างจากขยะ สภาพความเสื่อมโทรมที่มีอยู่แล้วถูกกระพือให้รุนแรงขึ้นจากการระบาดของยา "Xylazine" หรือที่รู้จักในหมู่นักเล่นยาว่า "tranq" ที่เป็นยากล่อมประสาทที่ทำให้ถึงตายได้ มักใช้เพื่อเสริมฤทธิ์ของเฮโรอีน (heroin) เฟนทานิล (fentanyl) และโคเคน (cocaine) 

การเสพย์ "tranq" จะมีหลากหลายทั้งสูบ สูดดม ฉีด กลืน และบางคนถึงขั้นฉีดระหว่างนิ้วเท้า ส่วนผลที่เกิดจากการใช้ยาเสพติดชนิดนี้ จะคล้ายกับการใช้ยาเกินขนาด ทำให้เกิดอาการมึนงงที่ไม่สามารถควบคุมได้ หายใจช้าลง และหมดสติ นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดบาดแผล บางคนมีแผลที่น่าสะพรึงกลัวขณะที่นอนอยู่ท่ามกลางกองขยะและเข็มฉีดยา

เสื่อมโทรมสุดขีด ฟิลาเดลเฟีย \'ถิ่นกำเนิดอิสรภาพ\' ของอเมริกา

เมื่อได้ชื่อว่าเป็นดงยาเสพติด อาชญากรรมก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว พบว่าเพิ่มขึ้น 1 ใน 5 และการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน คนไร้บ้านกับคนติดยามักจะลักเล็กขโมยน้อยเพื่อหาเลี้ยงตัว หรือหาเงินไปหาซื้อยาเสพติดมาเสพ และการระบาดของ "tranq" ทำให้ถนนในฟิลาเดลเฟียกลายเป็นขุมนรกของยาเสพติด 

จากที่เคยได้ชื่อว่า "Philly" หรือ "The City of Brotherly Love" เมืองหลวงแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา ในตอนนี้แม้ว่าฟิลาเดลเฟียจะยังคงได้ชื่อว่าเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐเพนซิลเวเนีย แต่สภาพของเมืองกลับทรุดโทรมจนต้องเบือนหน้าหนี เพราะเกลื่อนกลาดไปด้วยเต๊นท์และขยะสุดสกปรก 

เสื่อมโทรมสุดขีด ฟิลาเดลเฟีย \'ถิ่นกำเนิดอิสรภาพ\' ของอเมริกา

ในสถานการณ์อันน่าหดหู่ จะมีทั้งคนที่กำลังจะตายเพราะอดอยากหิวโหยและคนที่เสพยาเกินขนาด แหล่งข่าวทางการแพทย์คนหนึ่งบอกว่าเคยทำ CPR ช่วยชีวิตคนไป 5 คน และยังพบศพอีก 3 ศพ ไม่น่าเชื่อว่าผู้คนพากันเดินข้ามศพกันหน้าตาเฉย และจำไม่ได้แล้วว่าเคยให้ยา "นาร์คัล" (Narcan) ที่เป็นชื่อทางการค้าของยา "นาลอกโซน" (Naloxone) หรือยาที่ใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วย ที่ได้รับพิษจากการติดยาเสพติดไปมากแค่ไหน 

คนติดยาบางคนเดินทางมาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย, นิวยอร์กและที่อื่น ๆ ในสหรัฐฯ และมันยิ่งไปเพิ่มปัญหาให้ฟิลาเดลเฟีย จึงไม่แปลกที่จะมีคนพกกระจกติดตัว พอได้เวลาก็เอาไปแขวนไว้กับต้นไม้เพื่อส่องเวลาที่ปักเข็มเข้าที่คอ 

เสื่อมโทรมสุดขีด ฟิลาเดลเฟีย \'ถิ่นกำเนิดอิสรภาพ\' ของอเมริกา

เวลามีคนผ่านมาแล้วเข้าไปถามว่ามองฟิลาเดลเฟียเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้มักจะเป็น "Ground zero นรกบนดิน" หรือ "ตลาดค้ายาเสพติดกลางแจ้งแห่งเดียวที่ East coast" ผู้คนสามารถซื้อขายยาเสพติด หรือซื้อบริการโสเภณีได้อย่างเสรี เพราะไม่มีกฎเกณฑ์ใด ๆ จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจฟิลาเดลเฟีย พบว่าปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 17.7%, การลักเล็กขโมยน้อยเพิ่มขึ้น 5.7% แต่การฆาตกรรม, การกราดยิง, การข่มขืนและการปล้นลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 

ความมีชีวิตชีวาของเมือง เช่น การสัญจรของผู้คนที่สถานีรถไฟใต้ดิน ตรงข้ามอย่างชัดเจนกับคนติดยานตามข้างถนนที่มีสภาพเหมือนซอมบี้ในหนัง "Walking Dead"

เสื่อมโทรมสุดขีด ฟิลาเดลเฟีย \'ถิ่นกำเนิดอิสรภาพ\' ของอเมริกา

มีตัวเลขที่น่าตกใจว่า พบ "tranq" ในตัวอย่างเฟนทานิลมากกว่า 90% ในฟิลาเดลเฟีย และมีรายงานว่าการพบผู้ได้รับบาดเจ็บทางผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อน ที่ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินเพิ่มขึ้น 4 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อปี 2564 มีคนเสียชีวิตมากกว่า 107,000 คน จากการเสพยาเกินขนาด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 15% และมีแนวโน้มที่ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะตอนนี้ tranq กับเฟทานิล ที่ทำให้ผู้เสพย์มีสภาพเหมือนซอมบี้กำลังระบาดไปตามท้องถนนทั่วอเมริกาแล้ว