The Nation จัดเสวนา “SOFT POWER OF FLIM” เผย หนังไทยโตขึ้น 200 %

8 ธันวาคม 2565 The Nation จัดงานเสวนา World Flim Festival of Bangkok Forum 2022 “SOFT POWER OF FLIM” ภาพยนตร์ไทยในฐานะ “ซอฟท์พาวเวอร์” กับการก้าวสู่ตลาดภาพยนตร์ในระดับสากล โดยมี นายปราโมทย์ บุญนำสุข ผู้เชี่ยวชาญกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายพรชัย ว่องศรีอุดม คณะกรรมการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และนางสาวฉันทนา ทิพย์ประชาติ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง ‘หน่าฮ่าน’ และคณะกรรมการสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย

นายปราโมทย์ กล่าวว่า ควรต้องยกระดับในสิ่งที่ขาด เช่น ในไทยเรื่องของบท ยังลึกซึ้งไม่มากพอ จึงพยายามจับมือกับภาคีเครือข่ายของต่างประเทศ และมีการส่งไปอบรมที่ประเทศเกาหลีใต้ ตรงนี้เราถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนา และส่วนหนึ่งเราได้มีการจับมือกับทาง The Nation

เนื่องจากที่ผ่านมา วงการทำภาพยนตร์ยังขาดเวทีในการนำเสนอ การร่วมมือกับ The Nation จะส่งผลให้ผู้ผลิตหรือคนตัวเล็กได้มีโอกาสขึ้นมายืนให้คนอื่นได้เห็น โดยกองทุนฯจะมีการอนุมัติให้ทุนทำหนังปีละหนึ่งครั้ง ปีนี้ยื่นมาทั้งหมด 980 โครงการ จะทำให้การผลักดันทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ภาพยนตร์ไทยถือเป็นการผลักดัน “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่ดี

ด้านนายพรชัย กล่าวว่า การเติบโต ถ้าวัดจากปีที่เป็นโควิด จากที่มีหนังเข้าเมื่อปีก่อน(2564) ประมาณ 18 เรื่อง ปีนี้ประมาณ 36 เรื่อง ในด้านตัวเลขอาจโตขึ้นประมาณ 200 % เพราะมีหนังใหญ่ เช่น บุพเพสันนิวาส 2 ที่ทำเงินค่อนข้างสูง และอาจเป็นปีแรกที่ภาพยนตร์ไทยรายได้สูงสุดและชนะหนังฮอลลีวูดทุกเรื่อง

สำหรับปีหน้า(2566) คิดว่าน่าจะประมาณ 40-50 เรื่อง โดยปกติเราอยู่ประมาณ 60-65 เรื่องต่อปี ในภาพรวมของอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์อยู่ที่ประมาณ 30-50 % คาดว่าปีหน้าจะดีขึ้นหรือใกล้เคียง ซึ่งในปีหน้าคนน่าจะเริ่มคุ้นเคยมากขึ้นและเศรษฐกิจเงินเฟ้อ เริ่มสะท้อนชัดเจนขึ้นว่าคนเริ่มคุ้นชิน และวางแผนค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ธุรกิจของภาพยนตร์ก็จะสอดรับกัน

“หากเทียบเป็นสัดส่วนเรากับต่างประเทศ ถ้าเป็นไซต์หนังเท่าๆกันเราก็สู้ได้ ด้านตัวเลขหากมองในมาร์เก็ตแชร์ของหนังไทย แต่ก่อนเคยตกอยู่ประมาณ 9-11 % แต่ตอนนี้โตขึ้นถึง 20 % ของมาร์เก็ตแชร์” นายพรชัย กล่าว และกล่าวต่อ

อนาคตภาพยนตร์ไทย ตนคิดว่ามีทั้งอุปสรรคและโอกาสไปในตัว อุปสรรคหนึ่งคือ เรื่องของเทคโนโลยี ทำให้คนเข้าโรงหนังน้อยลง ในส่วนของโอกาส ก็อาจมีการทำคอนเทนต์ได้หลากหลายขึ้นกับทางแพลตฟอร์ม ถ้าเราสามารถเผยแพร่ไปต่างประเทศได้มากขึ้น ช่องทางที่เร็วขึ้นและได้รับความนิยม ตนคิดว่า จะมีคอนเทนต์ไทยมากขึ้น น้องๆที่กำลังเปิดโปรดักชั่นเอง สตูดิโอเล็กๆจะเกิดมากขึ้น ตรงนี้ก็เป็นผลดีทำให้มีความหลากหลายในเรื่องคอนเทนต์ และผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เกิดขึ้น