ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง หลังจาก บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ประกาศงบในปี 66 ฟันกำไรสุทธิในปี 2566 จำนวน 76,706 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.18% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 70,901 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิ 40 % มาจากโครงการที่ลงทุนในต่างประเทศทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง ซึ่งกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจะนำมาใช้ในการลงทุนพัฒนาโครงการต่าง ๆ ต่อไป
สำหรับแผนลงทุนในปี 67 ตั้งงบประมาณไว้ที่ 230,194 ล้านบาท โดยจะเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติจากโครงการจี 1/61 (แหล่งเอราวัณ ปลาทอง สตูล และฟูนาน) ให้ได้ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในเดือนเมษายนนี้ พร้อมรักษากำลังการผลิตก๊าซฯ จากโครงการจี 2/61 (แหล่งบงกช) โครงการอาทิตย์ และโครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย รวมทั้งจะเร่งการสำรวจปิโตรเลียมในไทยและต่างประเทศ รองรับการใช้พลังงานในอนาคต
นอกจากนี้ตั้งเป้าหมายเพิ่มการผลิตปิโตรเลียมอีกประมาณ 9% มาอยู่ที่อัตรา 505,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน รองรับการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ปตท.สผ.ได้สำรองงบประมาณเพิ่มเติม (Provisional Budget) อีกจำนวน 67,822 ล้านบาท ในช่วง 5 ปี (2567-2571) เพื่อพัฒนาพลังงานสะอาดรูปแบบต่าง ๆ อีกด้วย
สำหรับการ "จ่ายเงินปันผล" ถือว่า "สุดปัง" โดยคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 66 ให้แก่ผู้ถือหุ้น 9.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปัน ผลต่อกำไรสุทธิที่ 48.9 % รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 37,715 ล้านบาท ซึ่งได้จ่ายสำหรับงวด 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ไปแล้วในอัตรา 4.25 บาทต่อหุ้น เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 66
ส่วนที่เหลือ 6 เดือนหลัง (ก.ค.-ธ.ค.) จ่ายอีก 5.25 บาทต่อหุ้น โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 19 ก.พ.67 และ จ่ายในวันที่ 22 เม.ย. 67 ภายหลังได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 67 โดยการจ่ายปันผลปี 66 นี้ถือว่ามากสุดในรอบ 17 ปี นับจากปี 49
สำหรับผู้ถือหุ้น 10 อันดับ ที่เตรียมรับทรัพย์กระเป๋าตุงจากการจ่ายปันผลของ ปตท.สผ.ในครั้งนี้
1.บมจ. ปตท. ถือหุ้นจำนวน 2,532,340,489 หุ้น สัดส่วน 63.79 % รับเงินปันผลทั้งปี 24,057 ล้านบาท แบ่งเป็นงวดครึ่งปีแรก 10,763 ล้านบาท และครึ่งปีหลัง 13,294 ล้านบาท
2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ถือหุ้นจำนวน 313,789,303 หุ้น สัดส่วน 7.90% รับเงินปันผลทั้งปี 2,980 ล้านบาท งวดครึ่งปีแรก 1,333 ล้านบาท และครึ่งปีหลัง 1,647 ล้านบาท
3. STATE STREET EUROPE LIMITED ถือหุ้น จำนวน 108,674,008 หุ้น สัดส่วน 2.74% รับเงินปันผลทั้งปี 1,032 ล้านบาท งวดครึ่งปีแรก 462ล้านบาท และครึ่งปีหลัง 570ล้านบาท
4. SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED ถือหุ้นจำนวน 71,028,498 หุ้น สัดส่วน 1.79% รับเงินปันผลทั้งปี 747 ล้านบาท งวดครึ่งปีแรก 275 ล้านบาท และครึ่งปีหลัง 372 ล้านบาท
5. บริษัท สยาม แมนเนจเม้นท์ โฮลดิ้ง จำกัดถือหุ้น จำนวน 59,520,000 หุ้น สัดส่วน 1.50% รับเงินปันผลทั้งปี 565 ล้านบาท งวดครึ่งปีแรก 253 ล้านบาท และครึ่งปีหลัง 312 ล้านบาท
6. CITIBANK NOMINEES SINGAPORE PTE LTD-A/C GIC C ถือหุ้นจำนวน 36,215,562 หุ้น สัดส่วน 0.91% รับเงินปันผลทั้งปี 344 ล้านบาท งวดครึ่งปีแรก 154 ล้านบาท และครึ่งปีหลัง 190 ล้านบาท
7. BNY MELLON NOMINEES LIMITED ถือหุ้นจำนวน 35,184,634 หุ้น สัดส่วน 0.89% รับเงินปันผลทั้งปี 334 ล้านบาท งวดครึ่งปีแรก 150 ล้านบาท และครึ่งปีหลัง 184 ล้านบาท
8. สำนักงานประกันสังคม ถือหุ้นจำนวน 29,406,877 หุ้น สัดส่วน 0.74% รับเงินปันผลทั้งปี 279 ล้านบาท งวดครึ่งปีแรก 120 ล้านบาท และครึ่งปีหลัง 154 ล้านบาท
9.STATE STREET BANK AND TRUST COMPANY ถือหุ้นจำนวน 18,688,040 หุ้น สัดส่วน 0.47 % รับเงิน ปันผลทั้งปี 177 ล้านบาท งวดครึ่งปีแรก 79 ล้านบาท และครึ่งปีหลัง 98 ล้านบาท
10. SOUTH EAST ASIA UK (TYPE A) NOMINEES LIMITED ถือหุ้นจำนวน 11,996,572 หุ้น สัดส่วน 0.30% รับเงินปันผลทั้งปี 113 ล้านบาท งวดครึ่งปีแรก 51 ล้านบาท และครึ่งปีหลัง 62 ล้านบาท
หากย้อนไทม์ไลน์ของปตท.สผ. ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2528 ซึ่งดำเนินธุรกิจสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศไทยและความต้องการใช้พลังงานของประเทศ โดยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อปี 2536 มีทุนจดทะเบียน 3,969,985,400 บาท
ด้วยพันธกิจในการเป็นบริษัทพลังงานของประเทศไทยพร้อมกับการสร้างคุณค่าร่วมให้กับพันธมิตร ปตท.สผ. ได้ขยายการลงทุนในโครงการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตร เลียมไปกว่า 50 โครงการทั้งในและต่างประเทศ เช่น ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
ปัจจุบัน ปตท.สผ. ได้ขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจใหม่นอกเหนือจากการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยมุ่งเน้นพลังงานรูปแบบใหม่ของอนาคต นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงานควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออก ไซด์เพื่อเป้าหมายการเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำและการเติบโตในอนาคต
นอกจากนี้การดำเนินธุรกิจ ปตท.สผ. ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อน และสนับสนุนเป้าหมายการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ ไทย โดยได้กำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 (Net Zero Greenhouse Gas Emissions by 2050) ด้วยแนวคิด EP Net Zero 2050
พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการดำเนินงานควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้ง มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี และจริยธรรมธุรกิจ เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน
ด้วยประวัติการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งมายาวนาน และศักยภาพการเติบโตที่รออยู่ข้างหน้า รวมถึงการจ่าย "เงินปันผล" อย่างต่อเนื่อง ทำให้ ปตท.สผ. เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุน
เพราะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอจากผลตอบแทนในรูปแบบปันผลจากการถือหุ้น และยังเหมาะกับนักลงทุนที่พร้อมลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี ที่สามารถถือลงทุนไปได้ในระยะยาว ไม่ต้องคอยจับจังหวะในการซื้อขายหุ้นตลอดเวลา.....