นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) ได้มีนโยบายให้กรมการค้าภายใน กำกับดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้มีเสถียรภาพเกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชน อีกทั้งเป็นการเข้มงวดให้ผู้ประกอบการได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อธิบดีกรมการค้าภายในจึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ รวมทั้งขอความร่วมมือพาณิชย์จังหวัด ในการตรวจสอบสินค้าที่เป็นปัจจัยพื้นฐานและสินค้าที่ใช้ในช่วงเทศกาลวันสำคัญทางพุทธศาสนา เพื่อรักษาความเป็นธรรมทางการค้า ป้องกันไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร กรมการค้าภายใน และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงได้บูรณาการร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ผลิตและจำหน่ายชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรม และชุดเครื่องกฐิน ในช่วงประเพณีการทอดกฐิน ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนา
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการ ซึ่งได้พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านจำหน่ายสินค้า ชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรม และชุดเครื่องกฐิน พบว่า มีการแสดงราคาจำหน่ายปลีกสินค้า พร้อมทั้งแสดงรายการสินค้า ขนาด น้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุ และราคาของสินค้าแต่ละรายการ ที่บรรจุในชุดสังฆทาน หรือ ชุดไทยธรรม รวมทั้งค่าภาชนะบรรจุชัดเจน ปัจจุบันชุดสังฆทานมีราคาจำหน่ายทรงตัว ไม่มีการปรับราคาสินค้าขึ้น ภาวะการจำหน่ายสินค้าลดลง เช่นเดียวกับสินค้าชุดเครื่องกฐิน มีราคาจำหน่ายสินค้าทรงตัว และมีภาวะการจำหน่ายลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากสถานณ์การทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้พุทธศาสนิกชนเปลี่ยนพฤติกรรมในการซื้อสินค้าดังกล่าวลดลง
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ภารกิจการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าชุดสังฆทาน ชุดไทยธรรม และชุดเครื่องกฐิน ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ป้องกันไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ในช่วงประพณีสำคัญทางศาสนา และต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดในการปิดป้ายแสดงราคา การแสดงรายละเอียดสินค้าแต่ละรายการ ที่บรรจุในชุดสังฆทาน หรือ ชุดไทยธรรม ค่าภาชนะบรรจุ รวมทั้งการแสดงราคาจำหน่ายจำหน่ายชุดไทยธรรม และเครื่องอัฐบริขารให้ชัดเจน
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าหรือเข้ารับบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่มีการแสดงราคาสินค้าและบริการ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากจำหน่ายสินค้าและบริการในราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542