นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบรับคำเชิญของนายแอนโทนี อัลบาเนซี (The Honourable Anthony Albanese MP) นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลียในการรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2567 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยนายพิชัย เปิดเผยว่า “วันนี้ผมได้พบนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ทราบว่า ออสเตรเลียได้ประกาศยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สู่ปี 2583 เมื่อเดือน กันยายน 2566 ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นการส่งเสริมการลงทุนให้เติบโตรวมถึงการกระตุ้นการลงทุนของนักธุรกิจชาวออสเตรเลียมาสู่ภูมิภาค รวมถึงไทยมากขึ้น”
รมว.พาณิชย์กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การลงทุนของออสเตรเลียสอดรับกับนโยบายการส่งเสริมการค้าการลงทุนของท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในหลายเรื่อง เช่น ในด้านเกษตรและอาหาร ความมั่นคงทางอาหาร การใช้ไทยเป็นที่ตั้งของ Data Center การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสีเขียว รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าการผลิตแบตเตอรี่ และธุรกิจ BCG ไปจนถึง การศึกษาและการพัฒนาทักษะแรงงานต่างๆ เช่น สาขาการท่องเที่ยว บริการโรงแรม เทคโนโลยีสารสนเทศ การก่อสร้าง ผลิตอาหาร และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึง Soft Power เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในด้านภาพยนตร์ เกมส์ แอนิเมชัน ศิลปะ แฟชั่น วัฒนธรรม และบริการสุขภาพ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยมากขึ้น
นายพิชัย กล่าวเพิ่มว่า ที่ผ่านมาได้มีบริษัทเทคโนโลยีของออสเตรเลียในด้าน AI, เทคโนโลยีสุขภาพดิจิทัล, เทคโนโลยีทางกฎหมาย, เทคโนโลยีการเกษตร และเทคโนโลยีสำหรับนวัตกรรมธุรกิจ ได้พบปะกับนักธุรกิจในไทยและแลกเปลี่ยนความเห็น ประสบการณ์ เกี่ยวกับแนวโน้มตลาด ระบบนิเวศทางเทคโนโลยี และเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ภารกิจนี้ประกอบด้วยการจับคู่ธุรกิจเป้าหมายและการนำเสนอโครงการ การเยี่ยมชมสถานที่ และการเข้าร่วมในศาลาออสเตรเลียที่งาน Techsauce Global Summit ซึ่งเป็นหนึ่งในงานเทคโนโลยีชั้นนำของเอเชีย
“ในการจัดทำยุทธศาสตร์ดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียมีความสำคัญกับประเทศภูมิภาครวมถึงไทยด้วย ซึ่งผมเล็งเห็นแล้วว่าเป็นโอกาสทางการค้าและการลงทุนของนักธุรกิจออสเตรเลีย ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงการลงทุนร่วมกันในสาขาศักยภาพต่างๆ และออสเตรเลียเองก็มีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย คาดว่าการค้าระหว่างไทย ออสเตรเลียจะมีความก้าวหน้าขึ้นอีกมาก“ นายพิชัย กล่าว
ปัจจุบันไทยกับออสเตรเลียได้มีการตกลงทางการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) โดยครอบคลุมการเปิดเสรีการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลง TAFTA ไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปออสเตรเลียโดยใช้สิทธิประโยชน์ต่อการส่งออกที่ได้รับสิทธิ ในปี 2566 ร้อยละ 60.80 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 3.97 โดย สินค้าส่งออกของไทยที่ได้รับประโยชน์ เช่น รถยนต์และยานยนต์อื่น ๆ (เครื่องดีเซล หรือกึ่งดีเซล) รถยนต์ขนส่งบุคคลความจุกระบอกสูบเกิน 2,500 ลบ.ซม. ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ รถยนต์ขนส่งบุคคลความจุกระบอกสูบเกิน 1,000-1,500 ลบ.ซม. และปลาทูน่า
การนำเข้า ไทยมีสัดส่วนการนำเข้าจากออสเตรเลียที่ใช้สิทธิประโยชน์ต่อการนำเข้าที่ได้รับสิทธิ ในปี 2566 ร้อยละ 81.71 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 27.42 โดยสินค้านำเข้าจากออสเตรเลียที่สำคัญ เช่น ถ่านหินบิทูมินัส ข้าวบาร์เลย์ อื่น ๆ ส้มแมนดาริน องุ่นสด ไวน์อื่น ๆ ที่ทำจากองุ่นสด และนมและครีม