นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรได้จัดสัมมนา “ทิศทางการขับเคลื่อน Digital Tax Ecosystem ของประเทศไทย” เพื่อเผยแพร่แนวทางของระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรและเตรียมพร้อมเข้าสู่ระบบภาษีอากรที่เป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2571 โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนกว่า 70 หน่วยงาน เข้าร่วมการสัมมนา ณ สถาบันพัฒนาการจัดเก็บภาษีอากร กรมสรรพากร จังหวัดนนทบุรี
โดยที่ผ่านมากรมสรรพากรได้ขับเคลื่อนระบบภาษีอากรอิเล็กทรอนิกส์มาได้ระยะหนึ่ง และวันนี้ เป็นอีกวันหนึ่งที่เป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบภาษีอากรอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการจัดการด้านภาษีอากรของผู้ประกอบการ กรมสรรพากรจึงได้พัฒนา Digital Tax Ecosystem ใหม่ในการดำเนินการทางด้านภาษีอากร โดยได้นำ ‘ผู้ให้บริการตัวแทน’ (Service Provider) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการต่อยอดการจัดการด้านภาษีอากร ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะนำไปสู่ การเปลี่ยนผ่านการทำธุรกรรม ด้านภาษีอากรแบบดิจิทัล อย่างสมบูรณ์แบบภายในปี 2571
ทั้งนี้ ต่อไปในอนาคต Service Provider จะเป็นตัวกลางสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างผู้ประกอบการและกรมสรรพากร ซึ่ง Service Provider จะเป็นตัวช่วยในการลดความยุ่งยาก ความซับซ้อน และอุปสรรคในทางภาษีอากร ให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการทางภาษี ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ต้นน้ำ สู่ปลายน้ำของกระบวนการทางภาษีอากร
อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวต่อว่า ในปัจจุบัน กรมสรรพากรได้สร้างแรงจูงใจในการเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการสร้าง Digital Tax Ecosystem ที่เอื้อประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ เช่น การไม่ต้องจัดเก็บเอกสารในรูปแบบของกระดาษและการคืนภาษีที่รวดเร็ว เป็นต้น นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังได้มีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วยการให้หักค่าใช้จ่าย 2 เท่าสำหรับการลงทุนในระบบอิเล็กทรอนิกส์และสำหรับค่าบริการที่จ่ายให้แก่ Service Provider ด้วย
“กรมสรรพากรพร้อมรับฟังความคิดเห็น คำแนะนำ และพร้อมที่จะสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนากระบวนการด้านภาษีอากรให้มีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งจะทำให้การจัดการด้านภาษีอากรเป็นเรื่องง่ายและสอดคล้องกับการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการมากที่สุด” อธิบดีกรมสรรพากรกล่าว