ที่คลองน้ำบ้านซึม ตำบลสัมฤทธิ์ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา มีชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมากพลิกวิกฤติแล้ง พากันงมหอยแครงน้ำจืดในคลองน้ำท้ายหมู่บ้าน ในช่วงที่น้ำกำลังลด โดยชาวบ้าน บอกว่า ปริมาณน้ำภายในคลองน้ำแห่งนี้ ปีนี้แห้งลงอย่างรวดเร็ว จนสันดอนดินทรายโผล่ขึ้นกลางลำน้ำ และยังพบหอยแครงน้ำจืด และหอยเล็บม้า อยู่ภายในอ่างเก็บน้ำเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงพากันออกมางมหอย ในแต่ละวัน ชาวบ้านสามารถงมหาหอยแครงได้วันละ 20-30 กิโลกรัม แต่หากหาได้ในปริมาณมาก ก็จะนำไปขายให้กับคนในชุมชน ราคากิโลกรัมละ 20 บาท ทำให้มีรายได้ถึงวันละ 400-500 บาท ซึ่งเมนูเด็ดของคนในท้องถิ่นที่นิยมทำกันจะเป็นหอยแครงผัดกับผักบุ้ง และสามารถนำไปประกอบเป็นเมนูอื่นๆ ได้อีกหลากหลาย ช่วงนี้จึงมีออเดอร์สั่งซื้อหอยแครงน้ำจืดจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียวแถมยังได้เล่นน้ำคลายร้อนอีกด้วย
ส่วนชาวป่าโมกหนีร้อนลงคลองงมหอยตลับขายสร้างรายได้เสริม สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในพื้นที่จังหวัดอ่างทองซึ่งมีอุณหภูมิพุ่งสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส ทำให้หลายคนต้องวิธีคลายร้อน เช่นเดียวกับชาวบ้านตะพุ่น ต.นรสิงห์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง หาวิธีคลายร้อยด้วยการพาลูกหลานมาเล่นน้ำในคลองชลประทานเพื่อคลายร้อย แต่กลับ
พลิกวิกฤติเป็นโอกาสด้วยการนำอุปกรณ์เช่นกะละมัง ตะกร้าเหล็กหน้าพัดลมมางมหอยหลากหลายชนิดเพื่อนำไปขาย โดยเฉพาะหอยตลับซึ่งนิยมนำไปรับประทานและหอยชนิดต่างๆที่มีอยู่ในคลองเป็นจำนวนมาก พี่ซิ้ม อายุ 41 ปี ชาวตำบลนรสิงห์ เปิดเผยว่า ตนหาลูกหลานออกมาเล่นน้ำเนื่องจากอากาศร้อยก็เลยเอาอุปกรณ์มางมหาหอยเพื่อนำไปขายด้วย เป็นการหารายได้เสริมไปในตัว โดยจะงมหาพวกหอยตลับ หอยกาบ ซึ่งจะนำไปขายได้ในราคากิโลกรัมละ 30-60 บาท แต่ละวันจะงมหอยได้ประมาณ 2-4 กิโลกรัม ทำให้มีรายได้วันละ200-300 เป็นรายได้เสริมในช่วงการพาลูกหลานมาเล่นน้ำคลายร้อน และยังเป็นการประหยัดค่าไปที่พุ่งสูงอยู่ในขณะนี้อีกด้วย