7 กุมภาพันธ์ 2568 นาย ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงการเดินทางไปประเทศจีนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าที่นายกรัฐมนตรีไปก็เป็นเรื่องความสัมพันธ์ของสองประเทศ แต่ก็มีอีกหลายประเด็นที่ต้องคุยกัน เพื่อทำความเข้าใจ เพราะไทยเป็นประเทศที่มีทั้งสหรัฐเป็นพันธมิตรมานานเก่าแก่ที่สุดในเอเชีย และมีจีนเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงต้องวางความเหมาะสมให้พอดี แต่ส่วนใหญ่ก็ทราบว่า การพูดคุยของนายกรัฐมนตรีก็เป็นไปได้ด้วยดี
ส่วนเรื่องความร่วมมือของประเทศจีนที่จะร่วมปราบปราม "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า เราและจีนร่วมมือกันอย่างดี และเราก็ขอร้องประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เมียนมา" ที่ยังมีปัญหาสู้รบ และแน่นอนว่า รายได้ส่วนหนึ่งที่ใช้ในการสู้รบก็มาจากขบวนการ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" และยาเสพติด ถ้าเราไม่จัดการที่ต้นเหตุมันก็ไม่จบจึงต้องจัดการที่ต้นเหตุ อาจส่งผลให้คนฝั่งเมียนมาเดือดร้อน แต่ชุมชนก็ต้องคิดว่าจะไปโอบอุ้มคอลเซ็นเตอร์ไว้ทำไม ถ้าไล่คอลเซ็นเตอร์ออก ก็กลับมาเหมือนเดิม เราก็ดูแลเขา ส่งไฟ ส่งสัญญาณโทรศัพท์ให้เหมือนเดิม
แต่วันนี้เราก็ห่วงคนไทยที่โดนหลอกมากกว่า และห่วงชุมชนของเมียนมา ที่โอบอุ้มคอลเซ็นเตอร์ไว้ และทางเขมรที่ขณะนี้มีข้อมูลชัดเจนขึ้นว่าใครเป็นใคร ซึ่งเราก็จะขอความร่วมมือให้ได้ และก็รู้อยู่ว่าที่ "ปอยเปต" ตึก 25 ชั้นเป็นของใคร ซึ่งคนนี้มีสัญชาติไทยด้วย แต่เมื่อถึงเวลาจะถอนสัญชาติออก
ส่วนประเด็นที่เมียนมาไม่เดือดร้อน หลังไทยตัดไฟฟ้า และหันไปซื้อไฟจากประเทศลาวนั้น นายทักษิณ บอกว่าไม่เป็นไร น้ำมันเราก็บล็อกจะไม่ให้มีน้ำมันเข้าไปปั่นไฟ และคิดว่าถ้าจะเอาเข้าทางประเทศลาวก็คงไม่สะดวกเท่าไหร่