World of Change EP.8 พาไปย้อนดู การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่ที่เกิดจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ผลกระทบเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและมาจากหลายปัจจัย ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่มนุษยชาติต้องเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติที่อาจนำไปสู่จุดเปลี่ยนสำคัญในอนาคต
รับชมรายการได้ที่นี่ :
เริ่มต้นด้วยน้ำตกอีกวาซูเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญระดับโลก ซึ่งเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 11 ธันวาคม หลังจากที่ต้องปิดเนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลเชี่ยวจากฝนตกหนักในพื้นที่
น้ำตกอีกวาซู เป็นคำที่มาจากภาษากวารานี ของชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างบราซิลและอาร์เจนตินา เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้และหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร และสูงถึง 269 ฟุต โดยประกอบด้วยน้ำตกทั้งหมด 275 แห่ง ในช่วงฤดูฝน น้ำจะไหลมากถึง 13.6 ล้านลิตรต่อวินาที และในฤดูร้อนจะลดลงเหลือ 2.3 ล้านลิตรต่อวินาที
ความพิเศษของน้ำตกอีกวาซู คือ สามารถชมได้จากสองประเทศที่แตกต่างกัน โดยฝั่งบราซิลจะมองทัศนียภาพกว้างขวาง ทำให้เห็นภาพรวมของน้ำตกอย่างชัดเจน ขณะที่ฝั่งอาร์เจนตินาจะเข้าใกล้ตัวน้ำตกมากขึ้น ช่วยให้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่และพลังของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
น้ำตกอีกวาซู เกิดจากแม่น้ำอีกวาซูที่ไหลมาจากที่ราบสูงปารานา ก่อนจะตกลงจากขอบที่ราบสูงสู่พื้นที่ราบต่ำ ซึ่งทำให้เกิดน้ำตกขนาดมหึมา ด้วยความยาวกว่า 4 กิโลเมตรและความสูงถึง 269 ฟุต น้ำตกประกอบด้วยน้ำตกเล็กใหญ่ถึง 275 แห่ง ซึ่งสร้างความอลังการและความงามที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้การเยี่ยมชมในช่วงนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่ง
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2024 ปริมาณในน้ำตกอีกวาซูได้เพิ่มขึ้นเป็น 8.15 ล้านลิตรต่อวินาที ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 5 เท่า โดยจากการตรวจสอบทางเทคนิคยืนยันความปลอดภัยของสถานที่ดังกล่าว โดยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวกลับเข้าเข้าชมได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงอยู่ในระดับสูงแต่ได้รับการควบคุม
นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมในช่วงเวลานี้ได้แสดงความประทับใจและชื่นชมในความยิ่งใหญ่ของน้ำตกอีกวาซู โดยหลายคนระบุว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำที่สุดในรอบหลายปี หนึ่งในนักท่องเที่ยวกล่าวว่า แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการปิดเส้นทาง แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าเส้นทางยังคงเปิดให้เข้าชม และได้สัมผัสกับน้ำตกที่มีปริมาณน้ำมหาศาล ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ฝ่ายบริหารอุทยานแห่งชาติอีกวาซู กล่าว
การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำในน้ำตกเป็นผลจากฝนที่ตกหนักในพื้นที่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้นจาก 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 8,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่มาก ฝ่ายบริหารได้ดำเนินการควบคุมมาตรการความปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจว่าสถานที่ท่องเที่ยวยังคงปลอดภัยสำหรับผู้เยี่ยมชม นักท่องเที่ยวที่มาในช่วงนี้จึงได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่และความงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่
จากความสวยงามของน้ำตกอีกวาซู สู่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในภูมิภาคอัล-จาวฟ์ ทางตอนเหนือของประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งพื้นที่ทะเลทรายปกติได้ถูกปกคลุมด้วยลูกเห็บและฝนตกหนักจนดูราวกับหิมะ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ โดยพื้นที่ต่าง ๆ เช่น เมืองซากาคา และเขตปกครองดูมัต อัล-จันดาล ถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวจากผลกระทบของสภาพอากาศดังกล่าว
กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย (NCM) กล่าว ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ผิดปกตินี้เกิดจากระบบความกดอากาศต่ำที่หายากเหนือทะเลอาหรับ ระบบนี้พาเอาอากาศที่เต็มไปด้วยความชื้นเข้ามา ซึ่งเมื่อรวมกับความอบอุ่นของทะเลทรายที่รุนแรง จะทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บหรือแม้กระทั่งหิมะ
นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย คาดการณ์ว่าฝนที่ตกหนักอาจช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์แก่พื้นที่หุบเขา และเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดดอกไม้ป่าตามฤดูกาล เช่น ลาเวนเดอร์ และเบญจมาศ
กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย ยังได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับพายุฝนฟ้าคะนองเพิ่มเติม โดยเน้นถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดลูกเห็บ ลมแรง และน้ำท่วม ซึ่งอาจส่งผลให้ทัศนวิสัยลดลง พร้อมแนะนำประชาชนให้ใช้ความระมัดระวัง
ทั้งนี้ แม้ปรากฏการณ์ดังกล่าว จะสร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น แต่ผู้เชี่ยวชาญได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมองเหตุการณ์ในเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก และใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนามาตรการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ พบปริมาณน้ำจืดทั่วโลกในทะเลสาบ แม่น้ำ และชั้นน้ำใต้ดินลดลงอย่างรวดเร็ว โดยใช้การสังเกตการณ์ผ่านดาวเทียมของ NASA ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 และยังคงอยู่ในระดับต่ำ การลดลงนี้สร้างความกังวลต่อชุมชนและเกษตรกรที่ต้องพึ่งพาน้ำใต้ดินมากขึ้น และนำไปสู่ปัญหาเชิงสังคม เช่น ความอดอยาก ความยากจน และโรคภัยที่เพิ่มขึ้นจากการใช้น้ำปนเปื้อน
การลดลงของปริมาณน้ำจืดยังเกิดขึ้นสอดคล้องกับสถิติ 10 ปี ที่โลกมีอุณหภูมิร้อนที่สุด และร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ ตั้งข้อสงสัยว่าภาวะโลกร้อนอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ปริมาณน้ำจืดลดลงอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในข้อบ่งชี้คือการที่อุณหภูมิของมหาสมุทรที่อุ่นขึ้น ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้สภาพอากาศและรูปแบบของฝนทั่วโลกถูกเปลี่ยนแปลงไป
นอกจากนี้ภาวะโลกร้อนยังทำให้ชั้นบรรยากาศกักเก็บไอน้ำมากขึ้น ส่งผลให้มีฝนตกหนักมากขึ้น ยิ่งฝนตกหนักและนานมากเท่าไหร่ ดินก็จะยิ่งแน่นขึ้นจนไม่สามารถดูดซับน้ำลงไปเก็บสำรองเอาไว้ใต้ดินได้เลย และน้ำฝนที่ตกลงมาก็จะถูกความร้อนของโลกระเหยเป็นไอน้ำใปกับเก็บในชั้นบรรยากาศอีกครั้ง นี่คือเหตุผลที่หลายประเทศทั่วโลกต้องเผชิญภัยแล้งอย่างรุนแรง แม้จะเพิ่งประสบกับพายุฝนขนาดใหญ่มาก็ตาม
นักวิทยาศาสตร์ยังคงศึกษาว่าภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุหลักหรือไม่ และติดตามว่าปริมาณน้ำจืดทั่วโลกจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนปี 2015 ได้หรือไม่ในอนาคต พร้อมชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในระยะยาว
ประเทศซิซิลีปริมาณน้ำสำรองลดลง ขณะที่เขื่อนอันซิปาใกล้จะถึงจุดต่ำวิกฤต ในขณะที่บรรดาผู้นำโลกประชุมกันที่การประชุม COP29 ที่บากู เพื่อหารือถึงผลกระทบที่เพิ่มขึ้นของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกาะซิซิลีในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกำลังเผชิญกับวิกฤติน้ำที่เลวร้ายลง ซึ่งตอกย้ำถึงความเร่งด่วนของการดำเนินการทั่วโลกเพื่อความมั่นคงด้านน้ำ
เขื่อนอันซิปา เป็นแหล่งน้ำสำคัญที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาเนโบรดีกำลังจะหมดลง โดยคาดว่าปริมาณน้ำที่เหลืออยู่จะมีอยู่ได้เพียง 2.5 เดือนเท่านั้น เขื่อนแห่งนี้ให้บริการแก่เมืองต่างๆ 22 เมือง แต่ปัจจุบัน เขื่อนแห่งนี้ให้บริการน้ำแก่เมืองต่างๆ เพียง 5 เมืองเท่านั้น ทำให้ประชาชนเข้าถึงน้ำได้จำกัดเพียงหนึ่งในทุกๆ 7 วัน และจุดชนวนให้เกิดการประท้วงอย่างแพร่หลายทั่วทั้งภูมิภาค
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น แสวงหาแหล่งน้ำทางเลือกอย่างเร่งด่วนเพื่อค้ำจุนชุมชน ในเมืองนิโคเซียที่อยู่ใกล้เคียง และได้มีการเริ่มขุดเจาะแหล่งน้ำใต้ดินแล้ว โดยมีการสร้างบ่อน้ำบาดาลแห่งใหม่ขึ้น
ที่ปรึกษาฝ่ายป้องกันภัยพลเรือนในเมืองนิโคเซีย กล่าว “บ่อน้ำแห่งนี้อาจช่วยบรรเทาปัญหาได้ชั่วคราว แต่ย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้แหล่งน้ำแบบดั้งเดิมมีปริมาณลดลง”
นักธรณีวิทยาซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลการสำรวจแหล่งน้ำบาดาลบริสุทธิ์ เตือน แหล่งน้ำสำรองเหล่านี้ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาถาวร
เกาะซิซิลีต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาอย่างยาวนาน โดยสร้างสถิติความร้อนในยุโรปในปี 2024 ที่ 48.8 องศาเซลเซียส และฝนที่ตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยเป็นเวลาหลายเดือน โดยรัฐบาลอิตาลีได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน
อุณหภูมิของโลกที่กำลังร้อนขึ้น ส่งผลกระทบให้ประเทศจีนที่เป็นผู้ผลิตมันฝรั่งรายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารของโลก เนื่องจากให้ผลผลิตสูงเมื่อเทียบกับพืชผลหลักอื่น ๆ แต่มันฝรั่งมีความอ่อนไหวต่อความร้อนเป็นพิเศษ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ทำให้ภัยแล้งและน้ำท่วมรุนแรงขึ้น
จากการวิจัยของศูนย์มันฝรั่งนานาชาติ (CIP) ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Climate Smart Agriculture พบว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นเร่งการเติบโตของหัวมันฝรั่งได้ 10 วัน แต่ลดผลผลิตมันฝรั่งได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง
ภายใต้นโยบายด้านสภาพอากาศในปัจจุบัน โลกกำลังเผชิญกับภาวะโลกร้อนสูงถึง 3.1°C เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมภายในปี 2100 ตามรายงานของสหประชาชาติที่เผยแพร่เมื่อเดือนตุลาคม
ขณะเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์มันฝรั่ง Yakeshi Senfeng Potato Industry Company ได้ลงทุนในระบบ Aeroponic ซึ่งปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยให้รากลอยอยู่ในอากาศภายใต้สภาวะที่ควบคุม
เกษตรกรในประเทศจีนต้องการพันธุ์มันฝรั่งที่ให้ผลผลิตสูงและไม่ค่อยเป็นโรค โดยเฉพาะโรคใบไหม้ปลายฤดู ซึ่งทำให้เกิดโรคมันฝรั่งในไอร์แลนด์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 และเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้น
"โรคใบไหม้" ชนิดใหม่ที่รุนแรงกว่าเริ่มปรากฏขึ้น และโรคเหล่านี้ต้านทานต่อวิธีการป้องกันและควบคุมแบบดั้งเดิมได้ดีกว่า
การวิจัยของศูนย์มันฝรั่งนานาชาติ (CIP) ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองลิมา เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามร่วมมือกับรัฐบาลจีนเพื่อช่วยให้เกษตรกรปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้นขึ้น
นักชีววิทยาโมเลกุล เผยว่า เกษตรกรจีนจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงภายในทศวรรษหน้า โดยปลูกพืชในช่วงฤดูใบไม้ผลิแทนที่จะเป็นช่วงต้นฤดูร้อน หรือย้ายไปปลูกในพื้นที่ที่สูงกว่าเดิมเพื่อหลบเลี่ยงความร้อน
“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้น นั่นคือสิ่งที่กำหนดทิศทางของโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศที่เรากำลังดำเนินการอยู่” และแนะให้ผู้นำของจีนต้องพัฒนาวิธีแก้ปัญหาและกลยุทธ์ก่อนที่ผลผลิตพืชผลจะได้รับผลกระทบเชิงลบ นักชีววิทยาโมเลกุล กล่าว
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและมีสาเหตุมาจากปัจจัยที่หลากหลาย ส่งผลให้โลกในปัจจุบันเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงควรเตรียมพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบรุนแรงจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโลกในอนาคต