เมื่อ 6 ปีที่แล้ว หางโจวได้กลายเป็นเมืองที่สามของจีนที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมเอเชียนเกมส์ตามรอยกรุงปักกิ่งและเมืองกวางโจว มหกรรมเอเชียนเกมส์เปรียบเป็นงานกาล่าแห่งวงการกีฬาของเอเชีย โดยไม่ได้เป็นอีเวนต์กีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงความเจริญรุ่งเรืองของเมือง ท่ามกลางการมีส่วนร่วมของประชาชน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และภาพลักษณ์ในระดับสากล
Hangzhou Asian Games วางตำแหน่งโดยรวมให้เป็น “New Era, Great Asian Games” ซึ่งมีคอนเซปต์อยู่ที่การจัดอีเวนต์อย่างใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีชาญฉลาด ประหยัด และมีจริยธรรม โดยได้เอาชนะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมีความคืบหน้าอย่างแข็งแกร่งในการเตรียมการในแง่มุมต่าง ๆ
ปีนี้เป็นปีชี้ชะตาสำหรับการเตรียมจัดมหกรรม Hangzhou Asian Games ซึ่งมีสถานที่จัดการแข่งขัน 55 แห่ง หมู่บ้านเอเชียนเกมส์ 5 จุด และหมู่บ้านย่อยรองรับนักกีฬาในหางโจว ตลอดจนเมืองเจ้าภาพร่วมอีก 5 เมืองในมณฑล
ปัจจุบัน สถานที่จัดการแข่งขันได้สร้างเป็นอันแล้วเสร็จไป 42 แห่ง และกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบระบบการแข่งขัน โดยคาดว่าสถานที่ทั้งหมดจะส่งมอบและเริ่มทดลองจัดการแข่งขันได้ก่อนปลายปี 2564 และนับจนถึงเดือนมีนาคมของปีนี้ได้เปิดรับนักกีฬาลงแข่งรอบแรกแล้ว ในการแข่งขันปีที่ผ่าน ๆ มานั้นมีนักกีฬาจาก 45 ประเทศ (ภูมิภาค) เข้าร่วมแข่งขัน โดยได้รวมประเทศ (ภูมิภาค) ในกลุ่มโอเชียเนียเป็นครั้งแรก ครอบคลุมกีฬาทั้ง 66 สาขาของเอเชียนเกมส์
เจ้าชายอาห์เหม็ด ประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ได้กล่าวชื่นชมการเตรียมจัดมหกรรม Hangzhou Asian Games ในการประชุมสามัญครั้งที่ 39 ของสภาโอลิมปิกแห่งเอเชียเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ว่า “การเตรียมจัดมหกรรม Hangzhou Asian Games ได้มีความคืบหน้าสำคัญและมีตัวชูโรงมากมาย”
อีกผลลัพธ์สำคัญของการประชุมครั้งนี้คือการประกาศว่า การแข่งขันอีสปอร์ตและเบรกแดนซ์ได้รับการบรรจุลงในการแข่งขัน Hangzhou Asian Games อย่างเป็นทางการ โดยนับจนถึงวันนี้ มหกรรมดังกล่าวจะจัดการแข่งขันกีฬา 40 ประเภท และ 61 สาขา โดยการนำกีฬาอีสปอร์ตมาไว้ในการแข่งขันนี้อย่างเป็นทางการ ก็เป็นอีกจุดเด่นสำคัญที่แสดงให้เห็นนวัตกรรมและการเปิดกว้างของการแข่งขัน Hangzhou Asian Games
“ความชาญฉลาด” เป็นที่เอ่ยถึงบ่อยครั้งระหว่างการเตรียมจัดมหกรรม Hangzhou Asian Games การสร้างการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่ “ชาญฉลาด” ได้กลายเป็นจุดโฟกัสสำคัญสำหรับคนจากทุกที่ไม่ว่าจะในจีนหรือต่างประเทศ โดยทางคณะกรรมการผู้จัดการแข่งขัน Hangzhou Asian Games ได้นำการยกระดับสู่ดิจิทัลมาเป็นกลไกสำคัญ และอาศัยข้อได้เปรียบของเศรษฐกิจดิจิทัลในเจ้อเจียงและหางโจว ในการส่งเสริมการพัฒนา “Smart Asian Games” การผนวกรวมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ากับการจัดเอเชียนเกมส์นั้นปรากฏให้เห็นในการจัด เข้าร่วม และรับชมการแข่งขัน นักกีฬาทั่วเอเชียและบรรดาผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับความชาญฉลาดของเมืองอัจฉริยะและเสน่ห์ของเมืองโลกอนาคต
คุณ Chen Weiqiang รองเลขาธิการคณะกรรมการผู้จัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่19 หรือ Hangzhou 2022 และรองนายกเทศมนตรีเมืองหางโจว ได้ยกตัวอย่างไว้ว่า ในเรื่องของสถานที่อันชาญฉลาดนั้น “Big Lotus” หรือสนามกีฬา Hangzhou Olympic Sports Centre Stadium คว้ารางวัลมาแล้วมากมายในจีน ขณะที่ “Little Lotus” หรือ Tennis Centre ก็หมุนปิดได้ตามสภาพอากาศอันเป็นผลจากเทคโนโลยีชั้นนำของโลก
คุณ Chen กล่าวว่า “เพื่อให้การแข่งขันประสบความสำเร็จและพัฒนาเมืองไปพร้อมกัน การก่อสร้างสนามกีฬาของเราได้ยึดการจัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์และการใช้งานหลังจัดเอเชียนเกมส์เป็นหลัก โดยไม่ได้มีขึ้นเพื่อรองรับการจัดเอเชียนเกมส์เท่านั้น เพราะที่สำคัญกว่านั้นคือเพื่อทิ้งมรดกตกทอดของการแข่งขันนี้ไว้ให้เมืองและผู้อยู่อาศัย” โดยเมืองหางโจวจะใช้สถานที่หลังจัดเอเชียนเกมส์ให้บ่อยขึ้น พร้อมส่งเสริมกีฬาให้กับทุกคน ผลักดันเอเชียนเกมส์ให้กลายเป็นแบรนด์ประจำเมือง เชิญชวนให้ผู้คนมาเยือนเมืองหางโจวกันมากขึ้น ทำความรู้จักกับมณฑลเจ้อเจียง และเปิดโอกาสให้โลกได้สัมผัสกับมรดกทางวัฒนธรรมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ของหางโจว
การเตรียมจัดมหกรรมเอเชียนเกมส์จะเดินหน้าสานความร่วมมือด้านกีฬา พัฒนาเมืองอัจฉริยะ และสร้างแบรนด์ต่อไป นอกจากนี้ ยังจะมีการสร้างอีเวนต์กีฬาและวัฒนธรรมชั้นยอดในแบบของจีนที่สะท้อนเสน่ห์ของมณฑลเจ้อเจียงและกลิ่นอายของเมืองหางโจวด้วย เพื่อให้ Hangzhou Asian Games สร้างความประทับใจให้กับคนทั้งโลกในปี 2565