ศึกคาราบาว คัพรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ สเปอร์ส เฉือนชนะ เชลซี ด้วยลูกจุดโทษ 5-4 หลังเสมอในเวลา 1-1 ผ่านเข้ารอบต่อไปสำเร็จ โดยเหตุการณ์สำคัญที่ถูกพูดถึงคือจังหวะที่ "เอริค ดายเออร์" แนวรับของทีม "ไก่เดือยทอง" วิ่งไปเข้าห้องน้ำในช่วงนาทีที่ 76 เนื่องจากไม่สามารถอั้นได้ ซึ่งคนทั่วไปที่รับชมต่างนึกว่าเป็นการเปลี่ยนตัวออกจากสนาม แต่ไม่นานทางด้าน มูรินโญ่ เดินตามเข้าไปในอุโมงค์ ท่ามกลางความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ภาพตัดมาอีกทีเป็นไดเออร์วิ่งกลับมาเข้าสนามก่อนได้รับรายงานขอไปเข้าห้องน้ำเนื่องจากข้าศึกโจมตีกระทันหัน
หลังจบเกมกุนซือชาวโปรตุเกสยอมรับว่ามันจำเป็นที่เขาต้องเข้าไปกดดันลูกทีมให้รีบกลับมาลงเล่นโดยเร็วเพราะทีมเสียเปรียบ แต่เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้จริงๆ
"เราพยายามจัดการทีมด้วยนักเตะที่มีตอนนั้น สิ่งที่เกิดกับ เอริค ดายเออร์ ไม่ใช่เรื่องปกติ" มูรินโญ กล่าว
"เขาต้องไปเข้าห้องน้ำ ไม่มีโอกาสอื่น เขาต้องไปจริงๆ บางทีมันเป็นเรื่องปกติเมื่อร่างกายคุณขาดน้ำ เมื่อไม่มีอะไรอยู่ในกล้ามเนื้อ ซึ่งก็คือกรณีนี้"
"ผมรู้ว่าเขาต้องไป แต่ผมแค่พยายามไปกดดันให้เขากลับมาเล่นต่อในเวลาที่เหลือ"
"เขาเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับทุกคน การต้องเล่นสองเกมใน 48 ชั่วโมง ถ้าหน่วยงานเเกี่ยวกับฟุตบอลไม่สนใจ แต่ผมสนใจ"
ด้านสกาย สปอร์ตส์ ได้สัมภาษณ์เหตุการณ์จริงๆกับดายเออรื ดาวเตะวัย 27 ปี แบบหมดเปลือกว่า "มูรินโญ่ เข้ามากดดันถึงหน้าส้วม แต่ผมก็ทำอะไรดีกว่ารีบเบ่งให้สุดไม่ได้จริงๆ พฤติการณ์โดยธรรมชาติมันเรียร้อง" แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เปิดปาก