การเล่นรอบสุดท้ายของศึกกอล์ฟหญิงรายการเมเจอร์ที่ 4 ของปี "บริติช โอเพ่น" ที่โวเบิร์น กอล์ฟ คลับ พาร์ 72 เมืองมิลตัน คีนส์ ประเทศอังกฤษ โดย "โปรเม" เอรียา โปรวัย 21 ปีของไทย ที่เป็นผู้นำ จาก 3 รอบที่ผ่านมามี 16 อันเดอร์พาร์ ออกรอบร่วมกับ ลี มิ ริม จากเกาหลีใต้ ที่ตามหลังอยู่ 2 สโตรก
การเล่นผ่านไปแค่ 2 หลุม โปรเมขยับช่องว่างของการนำ ห่างเป็น 4 สโตรก จากการทำเบอร์ดี้ ขณะที่ ลี เสียโบกี้ จากนั้นช่องว่างของผู้นำกับผู้ตามก็ถ่างออกเป็น 5 และ 6 สโตรก ตามลำดับ เมื่อลีเสียอีกโบกี้ที่หลุม 4 ก่อนที่เอรียาจะทำเบอร์ดี้เพิ่มที่หลุม 6
อย่างไรก็ตาม "โปรเม" มาพลาดเสียโบกีที่หลุม 9 สกอร์ลดลงมาเหลือที่ 17 อันเดอร์พาร์ นำหน้า โม มาร์ติน จากสหรัฐ ที่ 9 หลุมแรก ทำเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ แซง ลี มิ ริม ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 อยู่ 4 สโตรก
เข้าสู่ 9 หลุมหลัง เอรียา พลาดอีกครั้งด้วยการเสียดับเบิ้ลโบกี้หลุม 13 ถูก ลี มิ ริม ที่ทำ 3 เบอร์ดี้ติดที่หลุม 10, 11, 12 แซงกลับมาเป็นที่ 2 อีกครั้ง ไล่จี้สาวไทยเหลือแค่สโตรกเดียว
เกมมาถึงหลุม 17 พาร์ 3 "โปรเม" พลิกเกมกลับด้วยการยิงเบอร์ดี้ไกลกว่า 20 ฟุต ลงไปอย่างสวยงาม กลับมานำสาวพลังโสม 2 สโตรก ก่อนประคองสถานการณ์เก็บพาร์หลุมสุดท้าย จบรอบที่อีเวนพาร์ 72 สกอร์รวม 4 วัน 16 อันเดอร์พาร์ 272 คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ โดยทิ้งอันดับ 2 ที่มี 2 คน คือ ลี มิ ริม ที่ไปเสียโบกี้หลุมสุดท้าย จบรอบนี้ที่ 1 โอเวอร์พาร์ กับ โม มาร์ติน ที่ 9 หลุมหลังตีพาร์หมด จบรอบที่ 2 อันเดอร์พาร์ ห่างถึง 3 สโตรก
จากชัยชนะครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการคว้าแชมป์รายการที่ 4 ของปีแล้ว ยังทำให้ เอรียา สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการกลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่ได้แชมป์รายการเมเจอร์ หลังก่อนหน้านี้เมื่อเดือน พ.ค. เธอก็ได้สร้างสถิติเป็นคนไทยคนแรกที่ได้แรกที่ได้แชมป์แอลพีจีเอ ก่อนซิวแชมป์ 3 รายการติดต่อกันมาแล้ว
ขณะเดียวกัน "โปรเม" ที่รับเงินรางวัลจากรายการนี้ถึง 464,817 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16.2 ล้านบาท มีสิทธิ์จะขยับอันดับขึ้นไปเป็นนักกอล์ฟหญิงมือ 3 ของโลก ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดที่นักกอล์ฟสาวไทยเคยทำได้อีกด้วย
ส่วน "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล รอบนี้ตีเกินไป 3 โอเวอร์พาร์ 75 สกอร์รวมอีเวนพาร์ 288 รั้งอันดับ 43 ร่วม