นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า จังหวัดตรัง เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ และธรรมชาติ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าเยือนของเมืองตรังหนึ่งในนั้น ก็คือ หาดปากเมง หาดที่มีแลนด์มาร์กสำคัญคือ เขาเมง โขดหินใหญ่กลางน้ำรูปร่างคล้ายคนนอนหงาย โดยประชาชนสามารถถ่ายภาพเช็กอินได้จากบน “สะพานปากเมง” ซึ่งจะได้ภาพที่เห็นทั้งชายหาด และเขาเมงได้ในเวลาเดียวกัน หรือหากอยากจะลงไปเดินสัมผัสทรายทะเล ชมพระอาทิตย์ตกดิน ก็สามารถไปได้ในช่วงเย็น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางจากสะพานปากเมง เชื่อมไปยังอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม
โดยตลอดสองข้างทางจะถูกเรียงรายไปด้วยต้นสนมากมายจนนับไม่ถ้วน ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังลอดอุโมงค์ต้นสนอันสุดแสนร่มรื่น ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่เมื่อมาถึงแล้วไม่ควรพลาด จากนั้นเดินทางต่อไปตามทางจะผ่านหาดฉางหลาง เป็นอีกจุดที่สามารถแวะพักผ่อน และชื่นชมทัศนียภาพได้ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการพะยูน หากโชคดีก็อาจจะพบพะยูนตัวเป็น ๆ ได้ หรือยังสามารถไปเยี่ยมชมพะยูนได้ที่เกาะลิบงเช่นกัน
ทั้งนี้ ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือจากท่าเทียบเรือปากเมง ไปยังเกาะมุกได้ โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ซึ่งเกาะดังกล่าว เป็นสถานที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดอีกแห่งหนึ่งก็คือ ถ้ำมรกต ที่จะทำให้ได้สัมผัสถึงความสวยงามของน้ำทะเลสีมรกต และดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ที่สำคัญเราจะได้สัมผัสถึงความสนุก ความตื่นเต้นในการเดินทางเข้าไปในถ้ำ ที่จะต้องอาศัยการเกาะกันเป็นแถว ซึ่งเหมาะแก่การไปเป็นหมู่คณะอย่างมาก
สำหรับการเดินทางมายังจุดเช็กอิน สะพานปางเมง เมื่อออกจากตัวเมืองตรัง มุ่งหน้าไปทางหาดปากเมง อำเภอสิเกา ประมาณ 37 กิโลเมตร โดยใช้ ทล.4046 และ ทล.4162 จนถึงสามแยกหาดปากเมงแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังถนนทางหลวงชนบทสาย ตง.4008 เดินทางไปอีกประมาณ 3.7 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดหมายปลายทาง อย่างไรก็ตาม ทช. ขอให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวขับขี่ยานพาหนะด้วยความปลอดภัย และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทตรัง โทร 0 7558 2314 หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146