"สีส้ม" ไม่ท้อ! ศึก อบจ.ร้อนฉ่า คู่แข่งเร่งเครื่อง

สมการศึกเลือกตั้งนายก อบจ. มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงช่วงโค้งสุดท้ายเพราะ...

1. “สีส้ม ไม่อมลูกท้อ” แม้จะโดนสกัด โดนรวมหัวอย่างไร ก็สู้ตามแนวทาง ทำให้ชาวบ้านเห็นใจ เกิดกระแส “ส้มธรรมชาติ” 

2.การเคลื่อนไหวหนักเกินไปของ “นายใหญ่” ทำให้ “สีส้ม” ได้คะแนนสงสาร 

เพราะฝั่งนายใหญ่ และค่ายน้ำเงิน ครบเครื่องทั้ง อำนาจรัฐ และทรัพยากร ส่วน “ส้ม”มีแต่กระแส และขายนโยบาย แถมพยายามเคารพกฎหมาย ไม่หาเสียงเกินจริง หรือนำการเมืองระดับชาติมาครอบ ทำให้หลายคนพร้อมเทคะแนนให้เสมอ 

3. อดีตนายกฯ ขึ้นเวทีมากไป เวทีหลังๆ เริ่มเปะปะ พูดซ้ำเดิม แถมทิ้งช่วงหลายวันกว่าจะเลือกตั้ง ทำให้ถูกย้อนศร ย้อนเกล็ด ส่งผลให้เสียแต้มไปพอสมควร 

• กระแสที่คาดว่าจะได้ ก็เลยไม่ได้ 
• กระสุนที่ว่าจะเปิดหัวจ่าย ก็ไม่เป็นระบบมากพอ 

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้...

•  เพื่อไทยอาจได้ไม่ถึง 13 หรือ 14 ตามที่ตั้งเป้าหมาย 
•  “ส้ม” อาจมีพลิก ปักธงได้บ้าง โดยขณะนี้ทีมยุทธศาสตร์ของพรรค ตั้งความหวังที่ นครนายก ตราด และสมุทรสงคราม เพราะคู่ต่อสู้ไม่ใช่บ้านใหญ่ที่ต้องเดิมพันแบบ “แพ้ไม่ได้” 
•  ส่วนจังหวัดที่มีลุ้น ถึงแพ้ก็ไม่เสียดาย เพราะมองไกลถึงการวางรากฐานเลือกตั้งหนหน้า คือ สุราษฎร์ธานี 

ขณะที่ระยอง ทีม สส.ผนึกกันเป็นเอกภาพ พร้อมใจกันช่วยเต็มที่ทุกคน จึงทำให้มีลุ้น และส่งผลให้ “นายกช้าง” ปิยะ ปิตุเตชะ แชมป์เก่า ต้องเร่งเครื่องช่วงโค้งสุดท้ายเช่นกัน 
 

 

3 พรรค 3 สี 3 ก๊ก ซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดของการเมืองไทย วางยุทธศาสตร์เลือกตั้งนายก อบจ.ต่างกัน 

พรรคส้ม - ยุทธศาสตร์ “ขยายอุดมการณ์” 

•  แปรอุดมการณ์ให้เห็นเป็นผลงานจริงๆ 
•  ลบคำปรามาส ทำงานไม่เป็น
•  หวังปักธงระดับจังหวัดให้ได้ อย่างน้อย 1-3 จังหวัด เพื่อโชว์ฝีมือการบริหารจริง นำนโยบายไปแปรเป็นภาคปฏิบัติได้จริง เพื่อผลสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน ในการเลือกตั้งปี 70 

พรรคน้ำเงิน - ยุทธศาสตร์ “ตอกเสาเข็ม” 

•  ขยายกำลังรบระดับท้องถิ่น ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์พรรคอยู่แล้ว คือ ใช้เครือข่ายอุปถัมภ์ระดับฐานราก 
• เมื่อได้กำลังรบเพิ่ม เป้าหมายคือ “ชิงจ่าฝูง” 

พรรคแดง - ยุทธศาสตร์ “ทวงความยิ่งใหญ่” (ของนายใหญ่) 

•  รักษาฐานที่มั่นเดิม เพื่อเป็นฐานสร้างความมั่นใจ 
•  ขยายฐานใหม่ โดยใช้กลยุทธ์ “รวมบ้านใหญ่” 
•  อาศัยบารมีอดีตนายกฯทักษิณ