จากเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างทหารเมียนมา และกองกำลังกลุ่มต่อต้าน วานนี้ (23 เม.ย. 68) บริเวณตรงข้ามช่องทางบ้องตี้ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี นั้น
ล่าสุด พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (ผบ.ฉก.ลาดหญ้า) กองกำลังสุรสีห์ และ พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เหตุปะทะดังกล่าวลึกจากแนวชายแดนไทย-เมียนมา เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงบ่าย กองกำลังกลุ่มต่อต้าน ได้ทำการโจมตีไปยังฐานปฏิบัติการทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่ 25 คอลัมน์ 2 บริเวณเขาโบฮัทสุ ระหว่างการปะทะได้ยินเสียงปืนและเสียงดังคล้ายระเบิด 4 ครั้ง นานประมาณ 15 นาที เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทั้งนี้การปะทะดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย และไม่มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา หลบหนีเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยแต่อย่างใด
สำหรับสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก ทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่25 คอลัมน์ 2 ได้รับการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ โดยอากาศยาน MI 17 ส่งผลให้ กองกำลังกลุ่มต่อต้านที่เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามช่องทางบ้องตี้ อำเภอไทรโยค ทำการโจมตีฐานปฏิบัติการทหารเมียนมา เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายกำลังออกมาลาดตระเวนในพื้นที่อิทธิพลของกองกำลังกลุ่มต่อต้าน หรือไม่ให้ทหารเมียนมามีกำลังพลเพียงพอสำหรับปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่
ขณะที่การเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ดังกล่าว ของกองกำลังสุรสีห์ ได้มีการจัดตั้งกองบัญชาการติดตามสถานการณ์ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยกระดับการปฏิบัติงาน การเตรียมความพร้อมของกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนให้มีความเข้มข้นมากขึ้น และเตรียมพร้อมกำลังสำหรับปฏิบัติการในกรณีสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้มีการบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง , อปท. , รพ.สต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว หากมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา หนีภัยการสู้รบเข้ามาในฝั่งไทย รวมทั้งพื้นที่อพยพพลเรือน พื้นที่ควบคุมตัวกองกำลังติดอาวุธ ที่อาจถอนตัวเข้ามาในฝั่งประเทศไทย รวมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ส่วนราชการ ประชาชน และสื่อมวลชนในพื้นที่ได้รับทราบ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ทั้งนี้ กองกำลังสุรสีห์ ยืนยันว่า สถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดน ยังไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน และกองกำลังสุรสีห์ มีความพร้อมสูงสุดในการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยจะไม่ยอมให้เกิดการรุกล้ำอธิปไตยของชาติอย่างแน่นอน