svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

รัฐบาลเร่งทำความเข้าใจสังคม ปมร้อน “สถานบันเทิงครบวงจร” ก่อนเข้าสภา

รัฐบาลเร่งทำความเข้าใจประชาชนและสังคม ปม “ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร” ก่อนนำเข้าสภาสมัยหน้า มั่นใจสร้างเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตไปข้างหน้า

จากกรณี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร "นายกอิ๊งค์" นายกรัฐมนตรี ประกาศเลื่อนการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ. )  การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปในการประชุมสภาสมัยหน้า จากเดิมมีกำหนดนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศมีเรื่องสำคัญ ต้องเร่งด่วน แก้ปัญหาก่อน ทั้งเหตุแผ่นดินไหวและนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา 

พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่ได้ถอนร่างกฎหมาย ตามที่หลายฝ่ายคัดค้าน แต่ในทางกลับกัน ยังคงให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็น โครงการเรือธงของรัฐบาลที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศขยายตัวมากขึ้น
รัฐบาลเร่งทำความเข้าใจสังคม ปมร้อน “สถานบันเทิงครบวงจร” ก่อนเข้าสภา
 

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมาก ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับความหมายของ “สถานบันเทิงครบวงจร” และร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  

ล่าสุด รัฐบาลยังเดินหน้าผลักดันอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ จะต้องเร่งทำความเข้าใจกับภาคสังคมอย่างเข้มข้นในทุกรูปแบบ เช่นทำประชาสัมพันธ์ออกไปเพื่อให้เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด ว่า โครงการสถาบันบันเทิงครบวงจร เน้นการพัฒนาเมือง การกระตุ้นภาคท่องเที่ยว โดยดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ซึ่งจะสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนให้กับชุมชนและประเทศ ไม่ใช่เป็นลักษณะบ่อนการพนัน ถูกกฎหมาย ที่จะมอมเมาประชาชน
รัฐบาลเร่งทำความเข้าใจสังคม ปมร้อน “สถานบันเทิงครบวงจร” ก่อนเข้าสภา
 

ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงจะเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ XXL มูลค่าโครงการละ 1 แสนล้านบาท ใช้พื้นที่ค่อนข้างมากไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ และเน้นใช้พื้นที่หรือที่ดินของภาครัฐเป็นสำคัญ ซึ่งจะเกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องได้มีโอกาสขยายตัวอย่างยั่งยืนตามไปด้วย จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่

โดยทำเลที่ตั้ง โครงการ ต้องเชื่อมต่อระบบโครงสร้างพื้นฐานรัฐ การเดินทางสะดวกสบาย เช่น รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินไม่เกิน 100 กิโลเมตร ฯลฯ กลุ่มเป้าหมายมุ่งเน้น ให้กลุ่มกำลังซื้อสูง ทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าพื้นที่ ตามเงื่อนไขที่กฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรกำหนด

รัฐบาลเร่งทำความเข้าใจสังคม ปมร้อน “สถานบันเทิงครบวงจร” ก่อนเข้าสภา

ขณะภายในโครงการจะมี ทั้งโรงแรมที่พัก ศูนย์การประชุม ศูนย์การค้า ศูนย์การแสดง สนามกีฬา ต่างๆแบบครบวงจร ซึ่งจะเป็นเมืองๆหนึ่ง โดยมีกาสิโน ส่วนเล็กๆ ที่มีกฎหมายควบคุมอย่างเข้มงวด

แน่นอนว่าประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้อย่างอิสระ เพราะมีเรื่องเงื่อนไขของรายได้เข้ามาเกี่ยวข้อง  สำหรับนักลงทุนที่สนใจ ซึ่งเท่าที่ทราบจะเป็นต่างชาติที่มีประสบการณ์ 5-6 รายดังที่ปรากฎตามข่าว ขณะนี้ยังไม่มีเอกชนรายใดเข้าเจรจากับภาครัฐ รวมถึงยังไม่มีการกำหนดพื้นที่อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้  นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สะท้อนการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวว่า หลังจาก ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร รัฐบาลจะเดินหน้าผลักดันการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว หรือ Entertainment Complex โดยใช้โมเดลคล้ายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก

โดยเบื้องต้นต้องรัฐบาลต้องการเปลี่ยนมุมมองของสังคมที่มักเข้าใจผิดว่าโครงการนี้เน้นเรื่องกาสิโนเป็นหลัก แต่ความจริงแล้ว กาสิโนจะมีสัดส่วนเพียง 5% ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น และต้องการสร้างแหล่งท่องเที่ยวครบวงจรที่เหมาะสำหรับครอบครัว เช่นเดียวกับโมเดลที่ประสบความสำเร็จในสิงคโปร์ มาเก๊า และลาสเวกัส

ภายในโครงการจะประกอบด้วยโรงแรมระดับ 4-5 ดาว รวมกันไม่ต่ำกว่า 5,000 ห้อง ศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติ สนามกีฬาในร่มความจุ 10,000-16,000 ที่นั่ง คอนเสิร์ตฮอลล์มาตรฐานระดับโลก ศูนย์การค้าและร้านค้าปลอดภาษี สวนสนุก พื้นที่จัดแสดงศิลปะและวัฒนธรรม ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ และสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ

รัฐบาลเร่งทำความเข้าใจสังคม ปมร้อน “สถานบันเทิงครบวงจร” ก่อนเข้าสภา

ขณะนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก 6 ราย แสดงความสนใจเข้ามาลงทุน โดยผู้ที่จะมาลงทุนต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 10,000 ล้านบาท และต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท พร้อมมีประสบการณ์ในการบริหารสถานบันเทิงครบวงจรระดับนานาชาติ มีแผนธุรกิจที่ครอบคลุม

สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่เบื้องต้น จะต้องเป็นที่ดินของรัฐ มีขนาดไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ มีระบบคมนาคมขนส่งและสาธารณูปโภคพร้อม อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบการเงิน

“ไทยต้องเร่งดำเนินการเพราะต้องแข่งขันกับโอซาก้าของญี่ปุ่นที่กำลังจะเปิด ผู้ประกอบการหลายรายมองว่าไทยมีศักยภาพสูงมาก เพราะมีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐาน บางรายถึงกับบอกว่าไทยอาจสร้างอารีน่าขนาด 16,000 ที่นั่งได้ ซึ่งใหญ่กว่าที่อื่นที่ทำได้แค่ 12,000 ที่นั่ง” นพ.พรหมินทร์กล่าว

สอดคล้องกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า  รัฐบาลมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวด ทั้งการป้องกันการฟอกเงิน การคุ้มครองผู้เล่นชาวไทยด้วยการเก็บค่าเข้า การจำกัดการเข้าใช้บริการ และระบบ Responsible Gaming ที่จะช่วยป้องกันปัญหาการพนัน

หากโครงการเกิดขึ้น จะช่วยยกระดับการท่องเที่ยวของไทย สร้างรายได้และการจ้างงาน รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ โดยเราจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ

ทั้งนี้รูปแบบการพัฒนา โครงการจะเป็นการลงทุนใหม่ทั้งหมด ไม่สามารถต่อยอดจากโครงการเดิมได้ เพื่อให้เกิดการลงทุนที่แท้จริง โดยจะเน้นการพัฒนาบนที่ดินของรัฐ และต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม รวมถึงอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

รัฐบาลเร่งทำความเข้าใจสังคม ปมร้อน “สถานบันเทิงครบวงจร” ก่อนเข้าสภา

ที่มา : “ฐานเศรษฐกิจ”