นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (22 เม.ย. 68) มีมติเห็นชอบในหลักการ แนวทางการแก้ไขปัญหาราคาโคเนื้อตกต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อทั่วประเทศรวมกว่า 1.43 ล้านราย ผ่านสภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยเนื้อหาที่สำคัญ อาทิ การสนับสนุนให้เกษตรกรลดต้นทุนด้านอาหารสัตว์ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ โดยสำรวจแหล่งปลูกพืชอาหารสัตว์ลดต้นทุน, การห้ามนำเข้าโคเนื้อจากประเทศเมียนมา เพื่อสร้างความสมดุลของกลไกตลาด และลดแรงกดดันทำให้ราคาโคมีชีวิตในประเทศตกต่ำ เนื่องจากปริมาณโคเนื้อและเนื้อโคภายในประเทศเกินความต้องการบริโภค, การป้องกัน และปราบปรามการนำเข้าเนื้อโคที่ผิดกฎหมาย และควบคุมการนำเข้าเนื้อโคจากต่างประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา และความมั่นคงภายในภาคอุตสาหกรรมโคเนื้อไทย ตลอดจนรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกรโดยการดูแลและปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทยจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของคู่แข่งทางการค้าต่างชาติ, การเร่งรัดตรวจสอบควบคุมการนำเข้าและใช้สารเร่งเนื้อแดงในโคเนื้อ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้า โคเนื้อในต่างประเทศและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน, การเร่งรัดผลักดันและสนับสนุนให้มีโรงฆ่าชุมชน และโรงแปรรูปโคเนื้อ ที่มีมาตรฐานในการบริโภคภายในชุมชน และการเร่งรัดเจรจาการส่งออกโคมีชีวิตโคเนื้อแช่เย็น แช่แข็ง และผลิตภัณฑ์อื่นๆจากโค เช่นหนังและกระดูก กับประเทศคู่ค้าที่สำคัญกับประเทศไทย
เอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นฤมล ภิญโญสินวัฒน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายเอกภาพ ระบุว่า การดำเนินการแก้ปัญหาราคาโคตกต่ำ เพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน ทั้งในภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน และที่สำคัญเป็นการสร้างรายได้ในภาคการเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาตามความต้องการของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อจำนวกว่า 1.43 ล้านราย รวมถึงเป็นการสร้างรายได้ระดับชุมชน และระดับประเทศจากการจำหน่ายโคเนื้อมีชีวิต จำนวนกว่า 9.89 ล้านตัว