9 เมษายน 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และ ร่าง พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่...) โดยมีความสำคัญทั้ง 2 ฉบับ เป็นมาตรการที่สำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์
หากมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะมีผลบังคับใช้ทันที คาดว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเร็ววันนี้ และตนอยากให้มีการประกาศก่อนสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม ร่างที่ ครม.เห็นชอบมีการแก้ไขจากร่างเดิมในหลายประเด็น แต่ไม่ทิ้งหลักการที่สำคัญ เช่น เรื่องของการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ของโอเปอเรเตอร์ แพลตฟอร์ม หรือเรื่องของการคืนเงินผู้เสียหาย สามารถทำได้รวดเร็วขึ้น จะเป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมถึง มีเรื่องการเพิ่มโทษผู้กระทำความผิดที่เอาข้อมูลส่วนบุคคลไปขาย
ส่วนร่าง พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่...) กำหนดให้ผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศ แต่มาทำธุรกรรมในประเทศไทยต้องมีมาตรการกำกับดูแล จากเดิมที่ไม่มีเรื่องนี้ ต่อไปนี้เงินที่เกิดจากการกระทำความผิดที่ไหลเข้ามาในสินทรัพย์ดิจิทัล จะต้องมีการตรวจสอบ
ส่วนที่ยังมีเหตุการณ์เยาวชนถูกหลอกให้โอนเงิน เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ธนาคารสามารถอายัดเงินได้เลยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ถ้ากฎหมายประกาศใช้แล้ว ธนาคารสามารถอายัดได้เลย เพราะมีการเขียนกำกับไว้เลยว่า หากมีบัญชีที่ต้องสงสัย สามารถอายัดธุรกรรมทางการเงินได้เลย