ที่อาคารรัฐสภา นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิก วุฒิสภา และนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีบทบาทของ สว.ระหว่างที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI กำลังตรวจสอบควรเป็นอย่างไรนั้น
โดยนางสาวนันทนา กล่าวว่า ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ มีวาระพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คนที่ว่างลง ซึ่งในกระบวนการที่จะลงมติเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบนั้น ยังเป็นที่กังขาของสาธารณชนโดยทั่วไป เพราะขณะนี้การตรวจสอบที่มาของ สว.ทั้งหมด อยู่ในมือของ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว ซึ่งประชาชนก็ยังสงสัยการได้มาซึ่ง สว. ทั้งหลาย
ทั้งนี้ หากจะมีการลงมติในวันที่ 18 มี.ค.นี้ ก็อาจจะส่งผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากการดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระนั้น มีอายุ วาระ 7 ปี ถ้า สว.ที่ไปลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ หากบุคคลนั้นเข้าไปดำรงตำแหน่งแล้ว เมื่อการตรวจสอบมีปัญหา ว่าไม่สุจริต ก็จะทำให้ผู้ที่เป็น สว ขาดคุณสมบัติ และถ้าคนที่เป็น สว. ขาดคุณสมบัติแล้วไปลงมติเห็นชอบให้กับผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ จะส่งผลให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนั้น เป็นโมฆะ และจะเป็นผลกระทบระยะยาว
ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้บรรดาสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดชะลอการลงมติเห็นชอบองค์กรอิสระในวันที่ 18 มี.ค.นี้ไปก่อน จนกว่าการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะตรวจสอบจนสิ้นสงสัย ว่ากระบวนการได้มาซึ่ง สว. นั้นสุจริตโปร่งใส แล้วค่อยมาทำหน้าที่ลงมติกันต่อ
ด้านนายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ในฐานะภาคประชาชน ตนก็ไม่เห็นด้วยที่จะมีการลงมติในวันอังคารนี้ ซึ่งตนมีข้อห่วงใย 3 ข้อ คือ ประการแรกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังเหลืออีก 7 คน ซึ่งสามารถพิจารณาคำวินิจฉัยได้จึงไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ประการที่สองแม้กลุ่มสว.ดังกล่าว จะบอกว่ากระบวนการยังไม่สิ้นสุด ยังบริสุทธิ์อยู่ แต่การสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระเป็นเรื่องใหญ่ การที่กลุ่มสว. ไปแถลงข่าวทำนองว่า มีเรื่องของการเมือง และกลุ่มของพวกเขาเหล่านั้นอยู่คนละฝั่งกับอีกฝ่ายการเมืองในรัฐบาลปัจจุบัน แสดงว่าองค์กรอิสระที่ตั้งไปคงไม่มีความสง่างาม และไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต
และตนได้ไปยื่นเรื่องที่ ป.ป.ช. ให้สอบสวนกรณีสว.ใช้เวทีสภาฯ เอาผิดรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ว่าผิดมาตรา 157 หรือไม่ เป็นการแจ้งข้อความเท็จหรือไม่เพราะเขาก็ทำตามหน้าที่ แต่ก็เห็นว่าทางป.ป.ช.ยังไม่มีทำอะไร รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI
นายภัทรพงศ์ ยังกล่าวว่า ในวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมากลุ่มสว.พากันไปยื่นเรื่อง ให้มีการตรวจสอบการทำงานของรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมีชอบกรณีรับคดีฮั้วเรื่องสว. ในความผิดฐานฟอกเงิน ตนจึงไม่เห็นด้วยที่จะมีการลงมติตามเหตุผลที่ว่ามา