"นฤมล"ควง"ธรรมนัส" ลงพื้นที่"จันทบุรี" ลั่นพร้อมรับมือ"ซักฟอก"

13 มีนาคม 2568  ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่คลองภักดีรำไพ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี เพื่อมอบนโยบายด้านการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาเกษตรกรรมในพื้นที่ โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวต้อนรับ และอธิบดีกรมชลประทานได้รายงานสรุปสถานการณ์น้ำและการดำเนินงานในพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี ภาคการเกษตรมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (GPP) สูงถึง 87,570 ล้านบาท คิดเป็น 56.74% ของเศรษฐกิจจังหวัด ขณะที่ภาคนอกเกษตรมีมูลค่า 66,777 ล้านบาท หรือ 43.26% ของเศรษฐกิจรวม

ทั้งนี้ จังหวัดจันทบุรี ยังครองอันดับ 1 ของประเทศในด้านมูลค่าผลิตภัณฑ์ภาคเกษตร สำหรับสินค้าการเกษตรสำคัญของจังหวัด ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด และลองกอง ซึ่งล้วนเป็นสินค้าเกษตรส่งออกที่สร้างรายได้หลักให้แก่เกษตรกร โดยเฉพาะตลาดจีนที่มีความต้องการผลไม้ไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ในภาคประมง จังหวัดจันทบุรีมีการเพาะเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม กุ้งกุลาดำ และปลากะพง ซึ่งเป็นสินค้าสำคัญที่มีศักยภาพในการแข่งขันระดับสากล ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ รัฐมนตรีฯ ยังได้มอบปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกรจาก 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมพัฒนาที่ดิน: มอบจุลินทรีย์ ปุ๋ยหมัก และน้ำหมักชีวภาพ จำนวน 300 ชุด / กรมปศุสัตว์: มอบท่อนพันธุ์และเมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์ จำนวน 50 ชุด / กรมประมง: มอบพันธุ์ปลากะพงขาว / สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.): มอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตรให้แก่เกษตรกรจำนวน 200 ราย

ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีภาคเกษตรเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของจังหวัดจันทบุรีให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

ส่วนการดำเนินการเรื่องปลาหมอคางดำ ยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยทางกรมประมงมี 7 มาตรการที่ผ่าน ครม.ไปแล้ว ส่วนงบในการสนับสนุนก็มีอยู่แล้วถ้าหากมีส่วนไหนขาดทาง นายกก็พร้อมให้การสนับสนุนผ่านทางงบกลางอยู่แล้ว.. …

ด้าน ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้รับมอบหนังสือร้องเรียนของเกษตรกร ในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อนและสอยดาว เกี่ยวกับเรื่องน้ำ ที่ยังยังคงเพียงพอในการทำเกษตร และความเดือดร้อนปัญหาแรงงานเก็บเกี่ยวลำไย นายเฉลิมพล ศักดิ์คำ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองท่าช้าง ได้เสนอให้ประสานการโอนอำนาจสิทธิ์เกี่ยวกับเรื่องการดูแลทำหมันให้กับสุนัขจรจัด ในพื้นที่เทศบาลต่างๆรับผิดชอบโดยตรง เนื่องจากจะง่ายกับการบริหารจัดการ ไม่ต้องรอให้ปศุสัตว์มาดำเนินการซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และบริหารจัดการไม่ทันการณ์

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า สส. พรรคกล้าธรรม

พร้อมกันนี้ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวถึงการดำเนินงานทางการเมืองในนามพรรคกล้าธรรมด้วยว่า   “ ตอนนี้ทางพรรคกล้าธรรม มีจำนวน ส.ส. อย่างเป็นทางการแล้ว 24 ท่าน และยังมี ส .ส. ที่อยากมาร่วมอุดมการด้วยอีกหลายท่าน แต่ยังติดอุปสรรค การสิ้นสภาพการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถ้าจะย้ายพรรคกต้องให้ขับไล่ออกไป แต่โดยพฤตินัยแล้ว จะเข้ามาร่วมกับพรรคประมาณ 10 ท่าน แต่ยืนยันว่าทั้ง 10 ท่านที่มาไม่ได้มาจากพรรคในรัฐบาล โดยในเร็วๆนี้ก็จะทยอยเข้ามามากขึ้น

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึง ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ว่า “ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยมี นส.นฤมล หรือ อาจารย์แหม่ม เป็นหัวหน้าพรรค และยังเป็นรัฐมนตรีด้วย ในส่วนของกระทรวงเกษตร อาจารย์แหม่มได้กำชับรัฐมนตรีทั้ง 2 ท่าน โดยจะเกร็งข้อสอบ ให้เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร และจะให้ทางเลขาของพรรคเตรียมข้อมูลเอกสาร ขึ้นคัดค้าน หรืออธิบายข้อมูลทางด้านการเกษตร"

"ในฐานะที่ผมเคยอยู่ในสภามาเป็นสมัยที่ 2 การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ประชาชนสนใจว่า เมื่อเกิดการอภิปรายหรือการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาว่าดีหรือไม่ดี จะเกิดประโยชน์หรือไม่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน มันต้องให้ได้สาระกับประชาชน และเกิดประโยชน์กับบ้านเมือง" ร.อ.ธรรมนัส กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ทางพรรคมีการเตรียมความพร้อม หากมีการถูกซักฟอก ” สำหรับเรื่องนี้ตนเองเคยเป็นรัฐมนตรี ก็เคยถูกซักฟอกจากวุฒิสภามาก่อน ก็ตอบประเด็นสำคัญ ตอบข้อข้อเท็จจริงมาโดยตลอด ตัวเลือกเหล่านี้เป็นเรื่องที่เคยผ่านมาแล้วก็ไม่ได้กังวล

สมเศียรโชติสนิท ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดจันทบุรี - รายงาน