svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“แดง - น้ำเงิน” เฉือนคม... ใครล้ม - ใครถล่มซ้ำ!

“แดง - น้ำเงิน” เฉือนคม... ใครล้ม - ใครถล่มซ้ำ!
13 กุมภาพันธ์ 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

วิเคราะห์การขบเหลี่ยม เฉือนคม จนถึงขั้นปะทะกันตรงๆ แม้จะไม่ถึงขั้นเดินเข้าตะบันหน้ากัน เรื่องราวที่เกิดขึ้นและเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย

การขบเหลี่ยมกัน จนถึงขั้นปะทะกันตรงๆ แม้จะไม่ถึงขั้นเดินเข้าตะบันหน้ากัน เกิดขึ้นและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย ทั้งสองเป็นแกนนำอันดับ 1 และ 2 ของพรรคร่วมรัฐบาล 

แม้จะมีจำนวน สส.ต่างกัน 1 เท่าตัว แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่กลัวเกรงกัน 

คุณผู้ชมลองไล่ดูไทม์ไลน์เหล่านี้ จะพบว่าทั้งคู่ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ และเริ่มแรงขึ้นจนถึงระดับ “ประดาบ…ก็เลือดเดือด”

ตัดช่วงตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ช่วงท้ายๆ เพราะมีการหาเสียง หาคะแนน ชิงสร้างฐานมวลชนกันอย่างชัดเจน 

## ยกที่ 1 ## 

“นายใหญ่” ขึ้นเวที เปิดศึกพรรคน้ำเงินแบบเต็มสูบ :

25 ม.ค. - เวทีศรีสะเกษ ถล่มกระทวงศึกษาธิการ ที่มีรัฐมตรีว่าการ “นามสกุลชิดชอบ” 

30 ม.ค. - เวทีส่งท้ายที่ลำพูน แขวะพรรคร่วมรัฐบาลทำนองว่ามีเลศนัย มีเล่ห์เหลี่ยม ด้วยการขอให้เลือกเพื่อไทยเยอะๆ จะได้ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

“…รัฐมนตรีทุกคนอยู่สังกัดพรรคเดียวกันหมด พูดรู้เรื่อง ไม่มีเลศนัย ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมมาก พูดตรงไปตรงมามันง่ายดี” 

พูดแบบนี้แปลว่าปัจจุบันพูดไม่รู้เรื่อ งไม่ตรงไปตรงมา และมีเลศนัย มีเล่ห์เหลี่ยม / อารมณ์เดียวกับที่เคยด่าใครว่า “อีแอบ” (13 ธ.ค.67 เวทีสัมนาพรรคเพื่อไทยที่หัวหิน) 
 

1 ก.พ. - พรรคสีน้ำเงินโต้กลับทันที “เสี่ยหนู” อนุทิน เปลี่ยนเส้นทางรถมุ่งหน้าไปศรีสะเกษ แสดงความยินดีกับนายก อบจ.สีน้ำเงินที่ชนะท่วมท้น พร้อมมีคน “หิ้วปี๊บ” ไปมอบ 

แม้ไม่ได้บอกว่าแซะใคร แต่คอการเมืองจำได้ว่า “นายใหญ่” พูดหลายเวที ฝากบอกแฟนๆ อย่าปล่อยให้แพ้นะ ไม่อย่างนั้นต้องเอาปี๊บคลุมหัว 

“แดง - น้ำเงิน” เฉือนคม... ใครล้ม - ใครถล่มซ้ำ!

## ยกที่ 2 ## 

3 ก.พ. - มีข่าว “นายใหญ่” ควันออกหู โกรธที่แพ้เลือกตั้งนายก อบจ. ถึง 4 จังหวัดจาก 8 จังหวัดที่ไปเปิดปราศรัย

แค้นสุดคือ ศรีสะเกษ เพราะแทนที่จะได้ “ไล่หนู ตีงูเห่า” กลับกลายเป็น “ได้ปี๊บ คลุมหัวเรา” มาแทน 

4-6 ก.พ. - ข่าวปรับ ครม.แรงขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นจะริบกระทรวงมหาดไทย และสลับกระทรวงในความดูแลของพรรคภูมิใจไทยที่ผลงานไม่เข้าเป้า และมีข่าว ถ้ารับไม่ได้ก็พร้อมปรับออก 

มีการวิเคราะห์โยงไปถึงจังหวะเวลาที่จะปรับพรรคภูมิใจไทยออกได้ โดยเฉพาะหากสมการในสภาเปลี่ยนจากการสอย สส.พรรคประชาชน (คดีเสนอแก้ 112 ใน ป.ป.ช.) 

ตลอดสัปดาห์ - ค่ายสีน้ำเงิน นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว มีแต่ภาพ “เสี่ยหนู อนุทิน” ออกแนวสบายใจ ไม่สะท้าน ระหว่างตาม “นายกฯ แพทองธาร” ไปเยือนจีน แถมมีภาพแฟชั่นโชว์ออกมา 
 

## ยกที่ 3 ## 

29 ม.ค. - “นายใหญ่ทักษิณ” ให้สัมภาษณ์ ตัดไฟเมียนมา ตัดท่อน้ำเลี้ยง "แก๊งคอลฯ​" ทำได้ ถ้ามีกิจกรรมผิดกฎหมาย 

30 ม.ค. - “เสี่ยหนู อนุทิน” เล่นบทกร้าว ไม่ยอมตัดไฟเมืองบาป “แก๊งคอลฯ” อ้าง กฟภ.ต้องปฏิบัติตามสัญญา ตัดไฟต้องมีมติ ครม. ท้าให้นายกฯแพทองธาร สั่งมา แถมบอก “นายผมมีคนเดียว” (แขวะถึงใคร ไม่ใช่นาย) 

4 ก.พ. - (หลังเลือกตั้งนายก อบจ.) “บิ๊กอ้วน ภูมิธรรม” สวนแรง ยืนอ่านสัญญา กฟภ.หน้าทำเนียบรัฐบาล ยืนยันตัดไฟได้ ไม่ต้องเข้าครม. หากพบกิจกรรมที่กระทบความมั่นคง 

5 ก.พ. - “เสี่ยหนู” อนุทิน เสี่ยงอ่อย จำต้องสั่งตัดไฟ โดยไปดำเนินการที่ กฟภ. 

5 ก.พ. - นายกฯแพทองธาร สวมบทนางพญา “นายตัวจริง” ถาม “เสี่ยหนู” ตัดไฟเรียบร้อยหรือไม่ ก่อนขึ้นเครื่องไปจีน 

“แดง - น้ำเงิน” เฉือนคม... ใครล้ม - ใครถล่มซ้ำ!
## ยกที่ 4 ## 

9-10 ก.พ. - “สว.สำรอง” รวมตัวยื่นดีเอสไอสอบ “โพยฮั้ว สว.” หลัง กกต.เก็บเรื่องเกือบปี ไม่มีความคืบหน้า 

11 ก.พ. - “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ เล่นบท “เขี่ยลูก” ให้ดีเอสไอ ลุยสอบ “โพยฮั้ว สว.” 

พูดตีปลาหน้าไซ เข้าข่าย 3 ฐานความผิด : อั้งยี่, 116 (ทำด้วยประการใดๆ ให้ประชาชนร่วมกันกระทำผิดกฎหมายบ้านเมือง) และ ฟอกเงิน (ชงเข้าคดีพิเศษได้) 

พูดดักหน้าว่า ดีเอสไออาจรับเป็นคดีพิเศษ 

แถมฟาดแรง “เรามองว่า สว. เป็นอำนาจทางนิติบัญญัติที่สำคัญ เขาเข้ามาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชน ในทางหนึ่งก็ถือว่าเป็นการกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือเป็นความมั่นคงของรัฐ การสอบสวนทางดีเอสไอจึงต้องประสานกับทาง กกต.” 

12 ก.พ. - อ.ธนพร ศรียากูล ถอดรหัสเกม “ล้ม สว.” อ้างเป็น “แผนนายใหญ่” ล้ม สว.เปลี่ยนสมการการเมือง หวังยึดสองสภาเหมือนยุคไทยรักไทย 

ถ้าล้ม สว.ไม่ได้ ก็ใช้ดีเอสไอกดดันด้วยคดี “ฟอกเงิน - อายัดทรัพย์” บีบ สว.เปลี่ยนสีเสื้อ จากน้ำเงินเป็นแดง ตั้งเป้า 100+ ยึดสภาสูง ลดอำนาจพรรคสีน้ำเงิน กินรวบสองสภา คุมการเมือง และองค์กรอิสระเบ็ดเสร็จ 

12 ก.พ. - มติพรรคภูมิใจไทย ไม่ร่วมสังฆกรรมประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 วาระ1 ซึ่งเป็นประเด็นที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้มาตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน และช่วงรณรงค์เลือกตั้งปี 66 

คนที่ออกมาบอกมติพรรค คือ “เสี่ยหนู อนุทิน” ให้ข่าวด้วยตัวเอง - นัยคือ ชัด ตรง แรง ไม่เกรงใจพรรคแกนนำ 

13 ก.พ. - พรรคภูมิใจไทยไปสภา บางส่วนเข้าประชุม แต่ไม่ยอมเป็นองค์ประชุม อ้างไม่อยากร่วมทำผิดรัฐธรรมนูญ 

สุดท้ายสภาล่ม องค์ประชุมไม่ครบ แก้รัฐธรรมนูญยังเดินหน้าไม่ได้ แม้จะยังไม่ตกไป แต่พรรคเพื่อไทยกลายเป็นจำเลย โดนพรรคประชาชนถล่ม ชิงกระแสคนรุ่นใหม่ ฝ่ายประชาธิปไตยที่อยากแก้รัฐธรรมนูญ 

13 ก.พ. - เพื่อไทยพลิกเกมอีกรอบ โพสต์บทความพร้อมกราฟฟิก ยืนยันความพยายามแก้รัฐธรรมนูญมาโดยตลอด แต่ติดขัดเพราะใคร? 

ขณะที่ภูมิใจไทยสวมบทพระเอกฝ่ายอนุรักษ์นิยม จับมือ สว.สีน้ำเงิน ขี่กระแสข่มเพื่อไทย ชิงแต้มอีกฝ่ายที่ไม่ใช่ฐานเสียงพรรคประชาชนไปหมด 

“แดง - น้ำเงิน” เฉือนคม... ใครล้ม - ใครถล่มซ้ำ!
## ยกที่ 5 แต่ไม่ใช่ยกสุดท้าย ## 

ข่าวจาก “บิ๊ก สว.สีน้ำเงิน” ยืนกราน 14 ก.พ. รัฐธรรมนูญไม่มีทางผ่าน ประสานมือ สว.สีขาว ไร้สี ร่วมคว่ำ สกัดเกมรื้อกติประเทศ 

14 ก.พ. - เปิดเกมเอาคืน “ดีเอสไอ - บิ๊กวี” ใช้กลไก กมธ.เรียกอธิบดีดีเอสไอชี้แจง ว่ามีอำนาจอะไรมาตรวจสอบกระบวนการเลือก สว. เพราะตามกฎหมาย พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. เป็นอำนาจ กกต.เท่านั้น 

ขณะที่ “บิ๊กวี” จะโดนเรียกมาขย่มปมชั้น 14 ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้แสดงท่าที “ไม่อยากแตะ - ไม่อยากยุ่ง”

“แดง - น้ำเงิน” เฉือนคม... ใครล้ม - ใครถล่มซ้ำ!

logoline