นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ เลขาธิการ กกต. แถลงภายหลังปิดหน่วยการเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิกสภา อบจ.ว่า ขณะนี้ แต่ละหน่วยเลือกตั้ง อยู่ระหว่างการนับคะแนน พร้อมยังได้ขอบคุณประชาชน ที่มีสิทธิเลือกตั้งที่ออกไปใช้สิทธิ ซึ่งจำนวนผู้ที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จะได้รับทราบหลังจากนี้ เนื่องจาก เพิ่งปิดหน่วยลงคะแนนไปเมื่อ 17.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมขอบคุณไปยังผู้ประกอบการ ที่ได้สนับสนุนให้ลูกจ้างที่มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกไปใช้สิทธิ
เลขาธิการ กกต.ระบุว่า ภาพรวมการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก็มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งฉีกบัตร จำนวน 6 ราย ซึ่งสำนักงาน กกต.ได้ไปร้องทุกข์ แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสืบสวนต่อไปตามขั้นตอน
ส่วนกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปที่หน่วยเลือกตั้งแล้ว แต่ไม่พบรายชื่อตนเองนั้น เลขาธิการ กกต.ระบุว่า การเลือกตั้งท้องถิ่น และการเลือกตั้ง สส.ต่างกัน เพราะในการเลือกตั้ง สส.หากมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ ยังสามารถใช้สิทธิการเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อได้ แต่หากมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่ถึง 1 ปี จะไม่สามารถใช้สิทธิได้ และไม่สามารถใช้สิทธิข้ามจังหวัดได้ ซึ่งเบื้องต้นมีประมาณ 3-4 ราย แต่ไม่เกิน 10 ราย ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการเสนอทบทวนกฎหมายอีกครั้ง เพื่อไม่ให้กฎหมายไปลิดรอนสิทธิประชาชน ซึ่งในกรณีที่ผู้ที่ไม่มีรายชื่อใช้สิทธิ และไม่ได้ใช้สิทธิ ก็จะไม่เสียสิทธิการเลือกตั้ง
เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวถึงการจัดหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยที่ไม่สามารถอำนวยความสะดวกได้ว่า เจ้าหน้าที่ประจำหน่วย ก็ได้แก้ไขไปตามสถานการณ์แล้ว
ส่วนการประกาศผลการเลือกตั้งจากนี้นั้น เลขาธิการ กกต.ระบุว่า คณะกรรมการ กกต.จะมีการพิจารณาตรวจสอบเบื้องต้น หากพบว่า หน่วยเลือกตั้งใดสุจริตเที่ยงธรรม ก็จะมีการประกาศผลภายใน 30 วัน แต่หากหน่วยเลือกตั้งใดยังมีปัญหา กกต.ก็สามารถขยายเวลาการประกาศผลได้ 60 วัน และจำนวนผู้สมัคร ก็มีผลต่อการประกาศผลเช่นเดียวกัน ซึ่งหากเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาฯ อบจ.ใด มีผู้สมัครเลือกตั้งเพียงคนเดียว ผู้สมัครนั้น จะต้องได้รับคะแนนมากกว่าคะแนนไม่ประสงค์ออกเสียงเลือกผู้ใด และจะต้องได้รับคะแนนมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้นด้วย
เลขาธิการ กกต.ยังเปิดเผยว่า ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาฯ อบจ.ครั้งนี้ มี 1 เขตการเลือกตั้ที่ไม่มีผู้สมัคร เนื่องจากผู้สมัครขาดคุณสมบัติ ซึ่ง กกต.ได้ถอนชื่อออกจากผู้สมัคร โดยจะได้มีการประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ต่อไป
เลขาธิการ กกต.ยังย้ำว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิในวันนี้ (1 ก.พ.) จะต้องไปแจ้งเหตุการไม่ใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะมิเช่นนั้น จะถูกตัดสิทธิบางประการไป โดยสามารถแจ้งได้จนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ที่สำนักทะเบียนอำเภอ, สำนักทะเบียนท้องถิ่น, เว็บไซต์ กกต. หรือแอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต
เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวถึงกระบวนการรายงานผลคะแนนทั้ง 76 จังหวัดว่า ขณะนี้ เริ่มมีการรายงานผลคะแนนการเลือกตั้งแล้ว โดยจังหวัดสมัครปราการ คาดว่า น่าจะทราบผลการเลือกตั้ง ในเวลา 20.00 น.
ส่วนหากจำนวนผู้มีสิทธิการเลือกตั้ง อบจ.ในครั้งนี้ ไม่เป็นไปตามเป้าเพราะเหตุการจัดการเลือกตั้ง อบจ.ในวันเสาร์ สำนักงาน กกต.จะเสียหน้าหรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต.ย้ำถึงเหตุผลในการเลือกตั้งที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ว่า กกต.ได้ชี้แจงไปแล้ว แต่ กกต.ก็ได้รณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุด โดยได้ตั้งเป้าไว้ที่ 65% หรือใกล้เคียงกับการเลือกตั้ง อบจ.เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ส่วนจะเสียหน้าหรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต.ยืนยันว่า ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และคำนึงถึงการอำนวยความสะดวกประชาชนไปใช้สิทธิมากกว่า
ส่วนหลังจากนี้จะมีการทบทวนการจัดการเลือกตั้งในวันเสาร์หรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต.ชี้แจงว่า ทุกครั้งจะมีการเลือกตั้งในวันเสาร์ แต่ในครั้งนี้ การกำหนดวันเลือกตั้งวันสุดท้ายตกที่วันอาทิตย์ จึงกังวลว่า จะกระทบต่อการส่งหีบบัตรเลือกตั้งไม่ทัน เช่นพื้นที่ในภาคเหนือ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อคณะกรรมการประจำหน่วยได้ และในวันนี้ (1 ก.พ.) ก็ยังมีคณะกรรมการประจำหน่วยการเลือกตั้ง มีอาการวูบระหว่างปฏิบัติหน้าที่ 2 คน แต่ยืนยันว่า หากมีการเลือกตั้งในพื้นที่ขนาดเล็กที่สามารถรายงานผลได้เร็ว มีพื้นที่เล็ก สามารถส่งผลคะแนนได้ทัน กกต.ก็พร้อมจัดการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ เพราะที่ผ่านมา กกต.ได้มีการกำหนดการเลือกตั้งไว้ที่วันอาทิตย์เสมอ
กรณีที่ผู้สมัครสมาชิกสภาฯ อบจ.ที่จังหวัดพิจิตรถูกอุ้มหายนั้น เลขาธิการ กกต.ระบุว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากสำนักงาน กกต.พิจิตร ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามตรวจสอบถึงบ้านแล้ว และพบว่า ไม่ได้เป็นไปตามกระแสข่าว
กรณีที่บึงกาฬ บัตรหายจำนวน 300 ใบว่า หน่วยออกเสียงการเลือกตั้ง อบจ.ในอำเภอเมืองบึงกาฬ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 630 คน แต่ได้รับบัตรไปเพียง 360 ใบ เพราะสลับตัวเลขกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยได้ไปรับบัตรเพิ่มแล้ว พร้อมยืนยันว่า มีการลงบันทึกการเบิกตามแบบไว้เป็นหลักฐานแล้ว จึงยืนยันได้ว่า มีที่มาที่ไปว่า เหตุใดบัตรหาย และเหตุใดจึงมีการเบิกบัตรเพิ่ม