“เมืองชายแดน” ซึ่งมีสถานะเป็น “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ตามชื่อที่ปรากฏ แต่แท้จริงแล้วคือ “เมืองสแกมเมอร์” สวรรค์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ 5 เมือง และไม่ได้เป็นข่าวรับรู้กันเฉพาะในเมืองไทย หรือในภูมิภาค แต่องค์การสหประชาชาติ ก็ให้ความสนใจ
ข้อมูลจาก สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นโอดีซี ระบุว่าเขตเศรษฐกิจเหล่านี้ คือ ศูนย์กลางการค้ามนุษย์และการฟอกเงิน มีมากถึง 128 แห่ง และกาสิโนอีก 140 แห่ง ทั้งหมดเปิดบนเงื่อนไขพิเศษตามแนวชายแดนของประเทศไทย เมียนมา และลาว รวมถึงบางเมืองของกัมพูชา เช่น สีหนุวิลล์ พูดง่ายๆ คืออยู่ข้างๆ บ้านไทยนี่เอง และอำเภอแม่สอด ก็เป็นเมืองสะพานข้ามไปเมืองเหล่านี้
ยกตัวอย่างเพื่อทำให้เห็นภาพง่ายขึ้น ก็คือเรื่องราวของ นายเสอ จื้อเจียง ที่ถูกระบุว่าเป็น “เจ้าพ่อ ชเว โก๊กโก” ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำไทย และอ้างว่าถูกทรมาน ถูกล่ามโซ่ ซึ่งทางการไทยออกมาปฏิเสธ และแฉกลับว่า ต้องการสร้างเรื่อง เพราะไม่อยากถูกส่งกลับไปจีน
เมือง ชเว โก๊กโก ถูกสร้างขึ้นด้วยเม็ดเงินกว่า 525,000 ล้านบาท โดยกลุ่มทุนย่าไถ่ อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่งมี นายเสอ จื้อเจียง เป็นผู้บริหารสูงสุด
นายเสอ เดิมเป็นชาวจีน แต่ต่อมาถือสัญชาติกัมพูชา เพราะไปลงทุนทำธุรกิจในกัมพูชา “กลุ่มทุนย่าไถ่” เคยตกเป็นข่าวครึกโครมว่า เกี่ยวข้องให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรและกาสิโนถูกกฎหมายฯ ของสภาผู้แทนราษฎรไทย เมื่อปี 65 ด้วย แต่เป็นการประชุมออนไลน์
สำหรับ นายเสอ จื้อเจียง ถูกตำรวจสากลออกหมายจับเมื่อปี 64 และถูกจับในเมืองไทยเมื่อปี 65 กลางโต๊ะรับประทานอาหารกับบุคคลชั้นสูงของไทยรายหนึ่ง จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาว จากนั้นถูกคุมตัวในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แต่มีพฤติกรรมอันตราย จึงถกย้ายเรือนจำไปที่เรือนจำคลองเปรม
นายเสอ จื้อเจียง มีคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากรัฐบาลจีนร้องขอ ศาลชั้นต้นสั่งให้ส่งตัว แต่นายเสอ ยื่นอุทธรณ์ และมีทางการกัมพูชาร้องเข้ามาเพิ่ม ขอตัวนายเสอ จื้อเจียง ไปที่กัมพูชาด้วยเช่นกัน คดีอยู่ระหว่างรอคำพิพากษาศาลอุทธรณ์