มี “กูรูการเมือง” หลายคน วิเคราะห์ตรงกันว่า สถานการณ์การเมืองที่ส่อเค้าวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ มาจากความไม่มั่นใจใน “ดีล” ของตัวอดีตนายกฯทักษิณเอง ส่งผลให้เคลื่อนไหวเปะปะ และเปิดศึกไปทั่ว เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง
- สถานการณ์ ณ จุดนี้ ยังไม่ใช่สถานะที่ได้เปรียบจริงๆ
- เวลาของตัวเองไม่รู้จะหมดเมื่อไร จึงต้องการให้ทุกอย่างเดินไปให้ได้ดั่งใจ เพื่อความมั่นคงของรัฐบาลเพื่อไทย และนายกฯแพทองธาร ลูกสาว
- เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็เลยฟาดงวงฟาดงาหนักหน่วง อย่างที่เห็นบนเวทีปราศรัย
คุณผู้ชมลองฟังย้อนอ่าน ย้อนฟังคำปราศรัยของอดีตนายกฯทักษิณ 3 ท่อน ที่อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเวทีสุดท้ายของปฏิบัติการ "ไล่หนู ตีงูเห่า ภาค 2"
อยากให้ผมทำงานให้หรือไม่ เอาอีกกี่ปี แต่ผมตกลงกับพระเจ้าว่า ผมไม่อยู่ประเทศไทยมา 17 ปี เพราะฉะนั้นขอทำงานให้พี่น้องคนไทยใช้หนี้ไปก่อนอีก 17 ปี ต้องใช้หนี้ให้คนไทยก่อน โดยเฉพาะพี่น้องศรีสะเกษที่ไม่เคยลืม
อีก 17 ปี ผมก็ 92 ปี เท่ามหาเธร์ (อดีตนายกฯมาเลเซีย) แต่มหาเธร์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบหนึ่งก็ 92 ปี เพราะฉะนั้น เขามาเริ่ม 92 ปี แต่ของผมทำจนถึงอายุ 92 ปี ผมน่าจะแข็งแรงกว่า ดังนั้นผมยังทำได้อยู่ ยังพอมีแฮงอยู่
ผมไปอยู่เมืองนอกเพื่อนเยอะ ถ้าปล่อยให้ผมไปเมืองนอกอีกที ผมจะเอาพวกนี้มาลงทุนที่ประเทศไทย เพื่อนผมบางคนชีวิตลำบาก อายุ 48 บางคนมีเงินสามล้านล้านเท่ากับงบประมาณแผ่นดิน เดี๋ยวนี้เด็กสมัยนี้เก่ง ใช้เทคโนโลยีหาตังค์ พวกนี้ผมจะเรียกมาช่วยคนไทย
คำถามที่ “กูรูการเมือง” ฟังแล้วหูชัน และนำไปถอดรหัสกันจ้าละหวั่น ก็คือ
3 ข้อสังเกตแรก คนตอบได้มีคุณทักษิณคนเดียว
แต่ข้อสังเกตสุดท้าย เรื่องอยากไปต่างประเทศ คนใกล้ชิดบอกว่าอยากไปจริง และมีความพยายาม “ขอไปต่างประเทศจริง” แต่ถูกสกัดทุกวิถีทาง ฝั่งอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว ซึ่งเป็น “ขั้วตรงข้ามอดีตนายกฯ” ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ยอมไม่ได้ เพราะถ้ายอม อาจไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย