svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เดียร์ วทันยา" ชำแหละ"ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" พบจุดกังวลอื้อ

"วทันยา บุนนาค" โพสต์ข้อความ ตั้งข้อสังเกต"ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์" แตกต่างจากที่เสนอไว้ตอนแรกมาก ชี้เปิดทางให้มี "กาสิโน" แต่ไม่มีกฎหมายปราบปรามการพนันใต้ดินให้สิ้นซาก พบประเด็นข้อกังวลต้องทบทวน

14 มกราคม 2568  ภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)  มีมติเห็นชอบในหลักการ "ร่างพ.ร.บ. การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร" หรือ "ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์"  ทำให้มีความเคลื่อนไหวจากกระแสสังคมทั้งสนับสนุน เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย 

ล่าสุด"วทันยา บุนนาค" หรือ มาดามเดียร์  ได้โพส์ข้อความแสดงความเห็นพร้อมตั้งข้อสังเกตต่อ "ร่าง กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ็" ฉบับกระทรวงการคลัง 

โดยระบุว่า "เดียร์" มีข้อกังวลพอสมควรสำหรับร่างกฎหมายฉบับล่าสุด หากหวังแค่ออกกฎหมายเพื่อเปิดทางให้มีกาสิโน แต่ไม่เร่งบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามการพนันใต้ดินให้สิ้นซาก สุดท้ายก็อาจกลายเป็นว่า "ที่อยู่ใต้ดินก็ไม่ขึ้นมา ขณะที่บนดินก็เก็บภาษีไม่ได้ และกฎหมายเอาผิดไม่ได้อีกด้วย" รายได้ภาษีที่รัฐบาลคิดว่าจะได้เพิ่มก็อาจเป็นแค่ภาพลวงตา

1. รัฐบาลพูดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวและแก้ปัญหาการพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย แท้จริงแล้วเป็นคนละเรื่องกัน และในประเทศที่ประสบความสำเร็จในการยกธุรกรรมใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน จะต้องทำการปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมายไปพร้อมกัน ไม่เช่นนั้นแล้วจะกลายเป็นว่า “ที่อยู่ใต้ดินก็ไม่ขึ้นมา ในขณะที่กฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้อีกต่อไป" รายได้ภาษีที่รัฐบาลคาดว่าจะเก็บได้ก็ไม่สามารถเก็บได้ตามที่คิด ในขณะที่กระบวนการยุติธรรมก็ยังไม่สามารถเป็นเสาหลักให้สังคมได้

ควรชัดเจนว่า เราต้องการเปิดกาสิโน "เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว" หรือ "เพื่อสกัดการพนันผิดกฎหมาย" หากต้องการทำทั้งสองอย่าง รัฐบาลควรแยกแผนงานให้เป็นระบบ โดยเฉพาะแผน บังคับใช้กฎหมาย สำหรับบ่อนเถื่อนและพนันออนไลน์ รวมถึงมาตรการเฝ้าระวังไม่ให้คนไทยเข้าไปติดหนี้ก้อนโต

2. อำนาจของคณะกรรมการนโยบายล้นฟ้า

2.1 อำนาจการกำหนดพื้นที่กาสิโนและเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพลกซ์เป็นของคณะกรรมการ ไม่มีการกำหนดพื้นที่เป็นกรอบ นโยบายไว้ใน ร่าง พ.ร.บ.เลย ซึ่งควรจะมีสัดส่วนกำหนดว่าเป็นกาสิโนเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ ไม่งั้นมันจะกลายเป็นกฎหมายกาสิโนอย่างเดียวที่พูดถึงแค่การตั้งกาสิโน ทั้งๆที่ส่วนที่จะทำรายได้ให้ประเทศคือพื้นที่ส่วนเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพลกซ์ กาสิโนเป็นเพียงจุดดึงดูด

  "วทันยา บุนนาค"  หรือ มาดามเดียร์

2.2 หากรัฐบาลอ้างอิง พ.ร.บ.กาสิโนของสิงคโปร์และประเทศอื่นๆ แนวทางของประเทศอื่นๆ จะกีดกันคนในประเทศตัวเองไม่ให้เข้าไปเล่นได้ง่าย โดยการตั้งกำแพงค่าธรรมเนียมแรกเข้า แต่ในร่าง พ.ร.บ. กลับให้อำนาจทั้งหมดในการกำหนดค่าธรรมเนียมกับคณะกรรมการ โดยไม่มีการกำหนดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ มีแต่กำหนดเพดานค่าธรรมเนียมไว้

2.3 กระบวนการเยียวยา หรือการรับเรื่องร้องทุกข์ ผลกระทบจากการดำเนินการกาสิโนไม่ชัดเจน ในขณะที่หลายประเทศจะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าร้องเรียน หรือกระทั่งยื่นชื่อของบุคคลที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อกีดกันไม่ให้เข้าสถานดำเนินการได้ แต่ใน พ.ร.บ. กลับไม่มีการระบุถึงนโยบายในส่วนนี้เลย 

ในบางประเทศ ประชาชนสามารถร้องเรียนความเสียหายที่เกิดจากกาสิโนได้ ทั้งยังมีระบบ "Self-Exclusion" หรือ "Third-Party Exclusion" เพื่อห้ามคนบางกลุ่มที่มีปัญหาสังคมหรือปัญหาหนี้สินเข้าถึงกาสิโน แต่ในร่าง พ.ร.บ. ของไทย ขาดแนวทางและข้อกำหนดชัดเจนในส่วนนี้ ซึ่งอาจทำให้คนที่มีปัญหาจากการติดพนันไม่มีหน่วยงานรองรับ

2.4 อำนาจการพิจารณาผู้รับใบอนุญาต การต่อใบอนุญาต การยกเลิกใบอนุญาตทั้งหมดเป็นของคณะกรรมการนโยบาย

3. คณะกรรมการนโยบายเกินกึ่งหนึ่งเป็นอำนาจฝ่ายการเมือง และถึงแม้จะประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 6 ตำแหน่ง แต่อำนาจการแต่งตั้งและปลดผู้ทรงคุณวุฒิเป็นของนายกรัฐมนตรี ควรทบทวนและเปลี่ยนให้สัดส่วนเป็นภาคประชาชนมากขึ้น และให้ผู้ทรงคุณวุฒิมาจากกระบวนการคัดเลือกที่ไม่เกี่ยวกับภาคการเมืองเพื่อป้องกันการแทรกแซงผลประโยชน์ทางการเมือง

สุดท้ายหวังให้ กระบวนการขั้นตอนทางรัฐสภาได้เอาข้อเสนอนี้ไปทบทวนต่อเพื่อให้ร่างกฎหมายนี้มีความรัดกุมและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากขึ้น

\"เดียร์ วทันยา\" ชำแหละ\"ร่างกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์\" พบจุดกังวลอื้อ