ความน่าสนใจในบทบาทของ “ผู้กอง” ที่คนการเมืองเรียกกันติดปากว่า “พี่มนัส” ก็คือ ไม่ได้ทำงานให้พรรคตัวเองพรรคเดียว แต่ยังทำงานให้พรรคใหญ่ของ “นายใหญ่” ด้วย
เป็นที่ทราบกันดีว่า “พรรคกล้าธรรม” แท้ที่จริงแล้วชื่อเต็มๆ คือ “พรรคกล้าธรรมนัส” ซึ่งหมายถึงเป็นพรรคในกำกับของ “ผู้กอง” นั่นเอง การที่พรรคนี้มีรัฐมนตรี 3 คน ยึดกุมกระทรวงเกษตรฯ ทั้งกระทรวง จริงๆ ก็คือ “ตัวแทนของผู้กอง”
ปัจจุบันพรรคกล้าธรรม มีเสียง สส. 24 เสียง เป็นกำลังหลักสนับสนุนรัฐบาล หลัง “นายใหญ่” เขี่ย “ลุงบ้านป่า” กับพรรคพลังประชารัฐไปเป็นฝ่ายค้าน
แต่บทบาทหลังฉากของ “ผู้กองธรรมนัส” คือเป็น “มือทำงานใต้ดิน - เชิงลึก” ให้กับ “นายใหญ่” โดยเฉพาะในศึกเลือกตั้งนายก อบจ. กลุ่มที่ลาออกก่อนครบวาระ และมีเหตุอื่นให้เลือกตั้งก่อนกำหนด รวม 29 จังหวัดในช่วงที่ผ่านมา
พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครในนามพรรค 8 จังหวัด และไม่ส่งในนามพรรค แต่ผู้สมัครหาเสียงว่าเป็น “สมาชิกพรรค” อีก 2 จังหวัด ปรากฏว่าชนะ 100%
หลายจังหวัดเป็นฝีมือของ “สหายผู้กอง” ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า นี่เอง เช่น จังหวัดพะเยา บ้านเกิดของผู้กองเอง
และขอนแก่น ซึ่งพรรคเพื่อไทยตีกันเอง ตอนแรกแกนนำพรรคประกาศส่ง คุณวัฒนา ช่างเหลา ลูกชาย คุณเอกราช ช่างเหลา อดีตขุนพลภูมิใจไทย แต่โดน สส.ในพรรคบางกลุ่มโวยวาย ไม่ยอมรับ
สุดท้าย “นายใหญ่” ส่ง “ผู้กอง” เข้าไปเคลียร์ปัญหา อุ้ม คุณวัฒนา เอาชนะอดีตนายก อบจ. 6 สมัย “คุณพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์” ไปได้ เรียกว่าเพิ่มแต้มให้ “นายใหญ่” โดยไม่ต้องเหนื่อย
นอกจากนั้น ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.อีก 47 จังหวัด ก็มี “ผู้กองธรรมนัส” เข้าไปเดิมเกมอีกหลายพื้นที่ หนึ่งในนั้นคือ “ปราจีนบุรี” ทั้งก่อนเสียงปืนดัง และหลังเสียงปืนดังแล้ว เพราะ “คนหลังฉาก” ที่เข้าไปทาบทามให้ “สจ.โต้ง” ส่งภรรยาลงชิงนายก อบจ.ในค่ายเพื่อไทย ก็คือ “ผู้กอง” นั่นเอง
คนการเมืองที่ทำงานใกล้ชิดกับอดีตนายกฯ เล่าว่า คุณทักษิณเชื่อมือในกลยุทธ์เอาชนะศึกเลือกตั้งของผู้กองธรรมนัส จึงมอบงานให้รับผิดชอบหลายอย่าง และไม่เคยพลาด ซึ่งบุคคลที่มีความสามารถ และมีชั้นเชิงทางการเมืองแบบนี้ ปัจจุบันพรรคเพื่อไทยขาดแคลน
ล่าสุดช่วงที่อดีตนายกฯทักษิณ ไปพบ นายกฯอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ก็ปรากฏร่างเงาผู้กองร่วมคณะไปด้วย ทั้งที่ไม่น่าจะเกี่ยว แต่เหตุผลลึกๆ เป็นเพราะผู้กองธรรมนัส คือผู้จัดหา infrastructure ทั้งหมดที่ทำให้เกิดการพบปะกันได้กลางทะเล โดยไม่ต้องมีขั้นตอนต้องขอศาลเดินทางไปนอกประเทศ
นี่คือสิ่งที่สะท้อนความไว้วางใจที่ “นายใหญ่” มีให้ “ผู้กอง” และเมื่อวันนี้ “ผู้กอง” ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี จึงมีเวลาขับเคลื่อนงานพรรคอย่างเต็มที่
ทั้งพรรคพรรคกล้าธรรม และพรรคเพื่อไทย เขาจึงถือเป็น “คนการเมืองหลังม่าน” ผู้ทรงอิทธิพลอีกคนหนึ่ง…ตัวจริง