นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองเลขาธิการพรรคฯ กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ กล่าวพาดพิงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พบหารือนายดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียว่า งงกับ นายรังสิมันต์ ที่ตั้งคำถามเหมือนคนไม่ตามข่าวสารว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกำลังรับตำแหน่งเป็นประธานอาเซียนในปี 2568 แต่งตั้งอดีตนายทักษิณ เป็น “ที่ปรึกษาประธานอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ” ไม่ใช่เพราะนายทักษิณเป็นล็อบบี้ยิสต์ หรือเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรี อย่างที่นายรังสิมันต์ยัดเยียด แต่เพราะนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ชี้แจงว่า “นายทักษิณ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญอันโดดเด่น และจะเปิดโอกาสอันประเมินค่าไม่ได้กับมาเลเซียและอาเซียน”
นางสาวลิณธิภรณ์ ยังระบุว่า แม้นายทักษิณ จะไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการในรัฐบาลนี้ แต่การหารือที่เกิดขึ้นนั้น นายกฯ อันวาร์ ก็เน้นย้ำวิสัยทัศน์การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศ ร่วมกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาลไทย ดังนั้น เป้าหมายของเหล่าผู้นำ และประสบการณ์ที่ผู้นำต่างประเทศยกย่องเชิดชูอดีตนายทักษิณ ล้วนแล้วแต่จะเป็นประโยชน์สูงสุดกับประเทศและภูมิภาค
“มัวแต่จ้องจับผิด จนลามถึงผู้นำต่างประเทศ ที่เขาแต่งตั้งอดีตนายกฯ ทักษิณเป็นที่ปรึกษา นับว่า สส.รังสิมันต์ ตั้งคำถามแบบไม่มีมารยาท สุ่มเสี่ยงยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยที่พรรคประชาชนไม่เคยรับผิดชอบ เลิกอ้างประชาชนอยากรู้ เพราะประชาชนทั่วไปต่างติดตามประโยชน์ของชาติ ที่มีอดีตผู้นำที่มีความสัมพันธ์อันดีกับนานาชาติ นำพาการเจรจาร่วมมือไปได้อย่างราบรื่น ต่างจากการมองโลกในแง่ลบ ตีทุกอย่างในแง่ร้าย เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศ?” นางสาวลิณธิภรณ์ กล่าว
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเรือยอร์ชจาก จ.ภูเก็ต ไปเกาะหลีเป๊ะเพื่อคุยดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ปัญหาการพบกันระหว่างนายทักษิณกับนายอันวาร์ เป็นการพบกันในฐานะอะไร เพราะนายทักษิณ ไม่ได้มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการหรือตามกฏหมายในรัฐบาลนี้เลย
“เราก็เห็นบทบาทของนายทักษิณทำหรือมีการแสดงกิริยา ที่ทำราวกับว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราไม่เห็นการออกมาพยายามปฏิเสธของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร หรือออกมาพูดในเชิงว่า นายทักษิณไม่มีอำนาจอะไรเลย แต่กลายเป็นว่าหลาย ๆ เรื่องเหมือนกับทุกคนต้องไปรอนายทักษิณด้วยซ้ำว่า ตกลงนายทักษิณคิดอะไรรัฐบาลก็คิดอย่างนั้น” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ ยังระบุว่า เมื่อเป็นการพบกันระหว่างนายทักษิณ กับนายอันวาร์พูดกันตรง ๆ ก็คือ ยากมากที่เราจะรู้ได้ว่า ตกลงแล้วการพบกันครั้งนี้มีวาระเรื่องสำคัญอย่างไรที่มีความจำเป็นที่ประชาชนต้องรู้ กลายเป็นว่าการอยู่หลังฉากของนายทักษิณ ทำให้การตรวจสอบของฝ่ายต่างๆในเรื่องนี้ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนทำได้ยากมาก ตนก็อยากจะทราบ เพราะเรื่องที่เราติดตามอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ วาระอาเซียน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอะไรต่าง ๆ ซึ่งมาเลเซียก็เกี่ยวในแง่ที่ว่า มีคนมาเลเซีย ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ในกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย สิ่งเหล่านี้เราเองก็อยากรู้ว่ามีการคุยกันหรือทำอะไรกัน
“วันนี้ภาพของนายทักษิณจึงไม่ต่างอะไรกับล็อบบี้ยิสต์ที่อยู่ในวงนอกของรัฐบาล แต่มีอิทธิพลในการที่จะทำในเรื่องต่างๆของรัฐบาลมาก จึงทำให้การทำงานของฝ่ายค้านตรวจสอบเรื่องนี้ทำได้ยากมากขึ้น” นายรังสิมันต์ กล่าว