23 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการรับสมัครลงชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ภายในสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายก อบจ. จากพรรคเพื่อไทย คือ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร มาลงทะเบียนคนแรก ตั้งแต่เวลา 06.51 น. ตามมาด้วย ผู้สมัคร จากพรรคประชาชน นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ เดินทางมา เวลา 07.35 น. โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีกองเชียร์จากทั้งสองพรรคให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม
โดยนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.เชียงใหม่ จากพรรคประชาชน จับฉลากได้ หมายเลข 1
และ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.เชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย จับฉลากได้ หมายเลข 2
หลังจากที่ได้รับหมายเลขแล้ว ผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.เชียงใหม่ ทั้ง 2 คน ได้ลงมาทักทายชาวบ้านที่มาให้กำลังใจอยู่ในบริเวณสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าบรรยากาศในช่วงเช้าวันนี้เป็นไปด้วยความคึกคักอย่างมาก
ด้าน นายมงคล สุขใส ประธานกรรมการ การเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ในครั้งนี้ ทางคณะกรรมการได้เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดีทั้งบุคลากรและสนามเลือกตั้ง ทั้ง 42 เขต ซึ่งจะต้องเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม และอยากเรียกร้องให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์จำนวนมาก
ขณะที่ ช่วงเย็นวานนี้ (22 ธ.ค.67) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงของ พรรคประชาชน ได้ลงพื้นที่เชียงใหม่เพื่อช่วยหาเสียงสู้ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ที่ได้ส่ง นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ลงแข่งในสนามเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ ซึ่งนายพิธา-พันธุ์อาจ พร้อมกับ สส.เชียงใหม่พรรคประชาชน ได้เดินทักทายประชาชน พ่อค้าแม่ค้า นักท่องเที่ยว ภายในถนนคนเดินท่าแพ และช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็ไปพบปะประชาชนชาวเชียงใหม่ ในพื้นที่ตลาดวโรรส
ด้าน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ก็เตรียมลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัยพบปะประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลายพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันนี้ และวันพรุ่งนี้ เพื่อช่วย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร จากพรรคเพื่อไทย หาเสียงและอ้อนขอคะแนนชาวจังหวัดเชียงใหม่ โดยเวทีแรกจะเริ่มช่วงเวลา 16.00 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการจัดเวทีอย่างยิ่งใหญ่
สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นพื้นที่หนึ่งที่การแข่งขันกันอย่างสูสี ซึ่งพรรคไหนจะครองใจประชาชน ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายในการแก้ปัญหาเร่งด่วน และผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหนที่ออกมาใช้สิทธิ์มากกว่ากัน