svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"กกต." ร่อนหนังสือเชิญ "อุ๊งอิ๊ง" แจงปมถูกร้อง"ยุบพรรค"แล้ว

"อิทธิพร" ย้ำส่งหนังสือเชิญ "อุ๊งอิ๊ง" แจงปมถูกร้องยุบพรรคแล้ว แต่จะมาหรือไม่ก็ได้ บอกสามารถเชิญ "ทักษิณ" ให้ถ้อยคำในฐานะผู้เกี่ยวข้องได้

18 ธันวาคม 2567 "นายอิทธิพร บุญประคอง" ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีการส่งหนังสือเชิญ "นางสาวแพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กรณีคำร้องว่า"นายทักษิณ ชินวัตร" ครอบงำพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อมีคนยื่นคำร้องว่ามีพฤติกรรมที่อาจผิดกฎหมายพรรคการเมือง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะพิจารณาว่าคำร้องดังกล่าว มีมูลให้ตรวจสอบต่อหรือไม่ หากพบว่ามีมูลสมควรเพียงพอแค่รับไว้พิจารณา นายทะเบียนพรรคการเมืองก็จะสั่งให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานรับไปดำเนินการ

คณะกรรมการชุดดังกล่าวก็จะเป็นผู้ดำเนินการ รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ร้อง ผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำ ก่อนสรุปความเห็น ส่งให้เลขาธิการ คณะกกต. ในฐานะทะเบียนพรรคการเมือง ใช้ดุลยพินิจพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร หากสั่งยุติเรื่องต้องแจ้งให้คณะกรรมการกกต.ทราบ แต่ที่ประชุมคณะกรรมการสามารถมีคำสั่งเป็นอื่นได้ 

โดย "นายอิทธิพร" กล่าวว่า กกต. จะไม่แทรกแซงหรือก้าวก่ายการทำงานของผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ ทราบว่าทางคณะกรรมการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เชิญผู้ร้องทั้ง 4 คำร้องมาให้ถ้อยคำแล้วและมีหนังสือเชิญผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำด้วยแต่จะเมื่อไหร่ อย่างไร ส่วนตัวไม่ทราบ และไม่แน่ใจว่ามีการเชิญนายทักษิณมาให้ถ้อยคำด้วยหรือไม่ แต่ต้องเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงซึ่งตีความหมายได้กว้าง อาจรวมถึงบุคคลต่างๆ ได้ด้วย 

ถ้า"นายทักษิณ"ไม่พร้อมมาให้ข้อมูลกกต.จะดำเนินการอย่างไร "ประธานกกต." กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่มีอำนาจทำอะไรได้ เพราะกฎหมายและระเบียบไม่ได้ให้อำนาจไว้ เป็นลักษณะการเชิญมาให้ถ้อยคำและส่วนใหญ่จะได้รับความร่วมมือซึ่งสามารถทำได้ด้วยการเดินทางมาให้ด้วยคำด้วยตนเอง การส่งหนังสือชี้แจง หรือมอบหมายผู้มาชี้แจงแทนได้ แต่หากไม่มาชี้แจงก็สามารถพิจารณาตามข้อมูลเท่าที่มีอยู่ได้ แต่การชี้แจงเป็นประโยชน์รูปคดี เพราะจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ถูกร้องมาชี้แจงโต้ตอบแก้ข้อกล่าวหาได้

เมื่อถามว่า ขณะนี้"นายทักษิณ"ไม่ได้เป็นเป็นนักการเมือง กกต. สามารถเชิญมาให้ข้อมูลได้ใช่หรือ "นายอิทธิพร" กล่าวว่า ทำได้ไม่มีปัญหาในฐานะผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องไม่ลืมว่าเขายังไม่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ

“อิทธิพร” เผย กกต.ขั้นตอนตรวจสอบการใช้เงินอุดหนุนอยู่แล้ว ปม “เพื่อไทย” เชิญ “ทักษิณ” เป็นวิทยากร

 

วันเดียวกัน "นายอิทธิพร บุญประคอง"ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวถึงการบริหารเงินอุดหนุนพรรคการเมือง ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองว่า มีการปรับปรุงข้อปฏิบัติให้ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากมีการเริ่มใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ตั้งแต่ปี 2560 แล้วเริ่มจ่ายเงินอุดหนุนให้กับพรรคการเมืองช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 จึงต้องมีการปรับปรุงระเบียบ เนื่องจากบางอย่างไม่มีชัดเจนต้องอาศัยการพูดคุย เพื่อให้การปฏิบัติในเรื่องนี้ส่งผลไปในทางที่ถูกต้อง ซึ่งการที่เราทำเช่นนี้ส่งผลให้การรายงานการใช้เงินที่ผ่านมา จากที่พรรคการเมืองส่งไม่ทันกำหนดเวลา เช่น ไตรมาสแรก จบที่เดือนมีนาคม จะต้องส่งรายงานการใช้เงินให้กกต. ภายในวันที่ 15 เมษายน มีบางพรรคส่งรายงานล่าช้า แต่ปีนี้ไม่มีเลย แสดงให้เห็นว่า ความพยายามทำงานร่วมกัน สร้างความเข้าใจที่ชัดเจน และการปฏิบัติที่ถูกต้องส่งผลดีไปเรื่อยๆ ทำให้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลและพรรคการเมืองเป็นไปตามวัตถุประสงค์ 

ส่วนที่ผ่านมาพรรคการเมืองใช้เงินจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง จนต้องปรับปรุงคู่มือการใช้นั้น "ประธานกกต." กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ได้ดูคู่มือฉบับใหม่ที่จะใช้ในปี 2568 และคณะกรรมการให้ความเห็นชอบไปแล้ว เชื่อว่าจะเป็นคู่มือที่ปรับปรุงได้ดีที่สุด สะดวกกับการใช้งานมากที่สุด ป้องกันไม่ให้ใช้จ่ายผิดพลาดโดยไม่จำเป็น ซึ่งจะมีเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์กกต.

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเชิญ "นายทักษิณ ชินวัตร"ไปเป็นวิทยากรในการสัมมนาพรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องมีการตรวจสอบหรือไม่ว่าใช้งบฯส่วนใด "นายอิทธิพร" กล่าวว่า มีกระบวนการใช้จ่ายงบประมาณอยู่แล้วซึ่งก่อนจะจัดกิจกรรมใดๆ จะต้องส่งรายละเอียดมาให้กกต.ตรวจสอบและให้ความเห็นชอบ และหลังจากกิจกรรมการพรรคการเมืองต้องยื่นรายการใช้จ่ายให้คณะกรรมการกอฃทุนฯ ทราบ ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทย ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีการแจ้งรายละเอียดการเชิญวิทยากรหรือไม่ เพราะมีคณะกรรมการกองทุนฯ ดูแลเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าพรรคการเมืองมีการแจ้งกิจกรรมในแต่ละปี แต่จะละเอียดแค่ไหนต้องไปดูอีกครั้ง