“โรม” หวัง ป.ป.ช.เร่งไขความกระจ่างกรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ กรรมการ ป.ป.ช.มีมติรับเรื่องไว้พิจารณา และให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ , นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะในกรณีการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ 180 วัน โดยหวังว่า เรื่องดังกล่าว กรรมการ ป.ป.ช.จะมีคำตอบให้สังคมได้โดยเร็ว เพราะที่ผ่านมา การให้ความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวในกรณีดังกล่าวไม่เป็นปกติ เพราะปกติเรื่องใดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทุจริตในหน่วยงานรัฐ กรรมาธิการฯ จะได้รับความร่วมมืออย่างดี แต่กรณีในลักษณะดังกล่าว กลับพบว่า เอกสารข้อมูลต่าง ๆ เรียกได้ยาก จึงเชื่อว่า เรื่องนี้มีบางอย่างถูกปิดซ่อนไว้อยู่ และการนำความจริงมาเปิดเผย การระบุถึงความผิดที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ปรากฏออกมาชัดเจน ดังนั้น จึงมั่นใจว่า กรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งมีอำนาจมากกว่ากรรมาธิการฯ มาก จะสามารถสร้างความกระจ่างได้ จึงจะต้องติดตามดู พร้อมแนะนำว่า บรรดาข้าราชการน้ำดี จะต้องปฏิบัติตรงไปตรงมา และส่งข้อมูลสนับสนุนมายังกรรมาธิการฯ เพื่อทำหน้าที่ต่อไป และกรรมาธิการฯ ก็พร้อมมอบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับกรรมการ ป.ป.ช.ไปประกอบการพิจารณา

ส่วนกรณีที่กรรมการ ป.ป.ช.รับพิจารณา และเป็นองค์คณะไต่สวนผู้เกี่ยวข้องกรณีดังกล่าว จะส่งนัยยะใด ๆ ทางการเมืองหรือไม่นั้น นายโรม ระบุว่า กรณีนายทักษิณ มีผู้ร้องเรียน และมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ มีการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงข้อมูลทางการแพทย์ที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีข้อพิรุธจากความร่วมมือของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จึงน่าจะทำให้หน่วยงานที่มีอำนาจในการตรวจสอบต้องทำหน้าที่ เพราะหากกรณีของนายทักษิณ ยังไม่ชัดเจน ไม่กระจ่าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบโดยตรง ก็จะถูกตั้งคำถาม

นายโรม การดำเนินการของ ป.ป.ช.ต้องใช้เวลา แต่ในเรื่องนี้ แต่เมื่อกรรมการ ป.ป.ช.เป็นองค์คณะไต่สวน ก็จะต้องรอพิจารณาดูว่า ป.ป.ช.จะมีเหตุผลใดที่ต้องใช้ระยะเวลาในการไต่สวนนานหรือไม่ ซึ่งหากเรื่องนี้มีความกระจ่างแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาเต็มทั้งหมด และเห็นว่า เรื่องกรณีของนายทักษิณ ไม่น่ายาก และไม่ต้องใช้เวลานาน โดยพิจารณาว่า นายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่ ส่งไปรักษาตัวชอบตามกฎหมายหรือไม่ และการพักรักษาตัวจนครบ 180 วันนั้น ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และการประเมินอาการต่าง ๆ นั้น เป็นการประเมินตามจริงหรือไม่ จึงเชื่อว่า ทุกอย่างมีความชัดเจนในตัวเอกสารอยู่แล้ว

นายโรม ยังเห็นว่า จากกรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณนี้ พรรคเพื่อไทยเอง มีโอกาสเป็นรัฐบาล แต่กรณีนายทักษิณ กลับทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ทั้งการแสดงบทบาทของนายทักษิณ และกรณีการรักษาตัว ทำให้ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลหายไปมาก การผลักดันวาระต่าง ๆ ที่ต้องใช้ความน่าเชื่อถือก็ยิ่งทำให้แย่ลง ไม่นับรวมนโยบายที่รัฐบาล ยังไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นตามการหาเสียงไว้ได้ จึงยิ่งทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล และหากจะเกิดวิกฤตการเมืองขึ้นในอนาคต ก็น่าจะก่อโดยพรรคเพื่อไทยเอง