เอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง)
นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยผลประชุมของคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข.ด้านการผลิต ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 ซึ่งมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม ภายหลังคณะกรรมการ นบข.ชุดใหญ่ ได้ขอให้กระทรวงเกษตรฯทบทวนโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เนื่องจากเกิดปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ และปัจจุบันได้ล่วงเลยระยะเวลาการสนับสนุนปุ๋ยปัจจัยการผลิตไปแล้ว อีกทั้งเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่ อยู่ในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว และนำผลผลิตออกสู่ตลาด ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจำนวน มากเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินงานโครงการจ่ายไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน ครัวเรือนละ 20,000 บาท
นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ดังนั้น คณะอนุกรรมการ นบข.ด้านการผลิต จึงมีมติให้ยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง และปรับเปลี่ยนเป็นสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าว อัตราช่วยเหลือไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ และจะยังได้มีการเสนอ 2 โครงการคู่ขนาน คือ โครงการศูนย์รวบรวมผลผลิตและกระจายสินค้าข้าว และโครงการสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยจะนำเสนอที่ประชุม นบข.พิจารณาอนุมัติเห็นชอบภายในอาทิตย์หน้านี้ และเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) ยังระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ ได้เตรียมเสนอ 2 โครงการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 วงเงินกว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งคาดจะให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาได้ในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากในช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม จะเป็นช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดมาก ได้แก่
1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2567/68 เป้าหมาย 3,000,000 ตัน วงเงินงบประมาณรวมราว 43,000 ล้านบาท แยกเป็น วงเงินสินเชื่อ 35,000 ล้านบาท วงเงินจ่ายขาด 8,000 ล้านบาท โดยธนาคาร ธ.ก.ส.จะจ่ายสินเชื่อตามโครงการ ให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรในพื้นที่ปลูกข้าวทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อชะลอข้าวเปลือกไว้ในยุ้งฉาง ในอัตราข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 12,500 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 11,000 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 10,000 บาท ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการได้รับค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าวในอัตรา 1,500 บาทต่อตันข้าวเปลือก โดยเกษตรกรที่เก็บข้าวเปลือกในยุ้งฉางตนเองได้รับเต็มจำนวน สำหรับสถาบันเกษตรกรที่รับซื้อข้าวเปลือกเข้าโครงการฯ ได้รับในอัตรา 1,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก และเกษตรกรผู้ขายข้าวได้รับในอัตรา 500 บาทต่อตันข้าวเปลือก
2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2567/68 เป้าหมาย 1,500,000 ตัน วงเงินงบประมาณรวม 15,000 ล้านบาท แยกเป็น วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท และวงเงินจ่ายขาด 656.25 ล้านบาท โดยธนาคาร ธ.ก.ส.จะสนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อรวบรวมข้าวเปลือกเพื่อจำหน่าย หรือเพื่อการแปรรูป โดยสถาบันเกษตรกรรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี รัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ยให้สถาบันเกษตรกร ร้อยละ 3.50 ต่อปี