นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึงมติจากประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ที่เห็นชอบปรับปรุงคำสั่งคณะอนุกรรมการพืชสวนเพิ่มเติม โดยเพิ่มรายการพืชจากเดิมที่คณะอนุกรรมการพืชสวนกำกับดูแล 5รายการ ได้แก่ เมล็ดกาแฟ กาแฟสำเร็จรูป ชา พริกไทย และลำไย เพิ่มอีก 1 รายการ คือ โกโก้ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและมีศักยภาพในการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และยังไม่มีคณะกรรมการที่รับผิดชอบดูแลกำกับโดยตรง จึงเห็นชอบให้เพิ่มรายชื่อพืชโกโก้เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถพิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานที่รับผิดชอบดูแลโดยเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และส่งเสริมการพัฒนาให้พืชโกโก้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป อีกทั้ง เห็นชอบให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการพืชสวน โดยเพิ่มผู้แทนองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และปรับปรุงอำนาจหน้าที่ให้มีความชัดเจน เพื่อให้การดำเนินงานในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาพืชสวนและผลิตภัณฑ์พืชสวนเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ก่อนเสนอ รมว.เกษตรฯ พิจารณาลงนามต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ยกเลิกหลักเกณฑ์การรับซื้อเมล็ดกาแฟในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันผลผลิตกาแฟในประเทศมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ การคงไว้ซึ่งหลักเกณฑ์ข้อกำหนด 1 : 1 ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องรับซื้อผลผลิตกาแฟภายในประเทศในปริมาณที่เท่ากับกาแฟที่นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อการขออนุญาตส่งออกตามระเบียบที่กำหนดในปี 2566 อาจไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และอาจก่อให้เกิดข้อจำกัดในการส่งออกและการแข่งขันในตลาดโลก
โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขอขยายปริมาณการเปิดตลาดนำเข้าเมล็ดกาแฟดิบในโควตาเพิ่มเติมปริมาณ 200 ตัน ภายใต้ WTO ปี 2567 ที่มีมติมอบหมายให้คณะอนุกรรมการพืชสวน รับไปดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้พิจารณาแผนการนำเข้าเมล็ดกาแฟดิบในระยะยาว (3 ปี) เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในประเทศ รวมทั้งศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเกษตรกรไทย